เช้านี้ภาคอีสาน-กลาง-ตะวันออก อากาศร้อนอบอ้าว ก่อนมีฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้ มีฝนเพิ่มตกหนักบางพื้นที่ คลื่นลมฝั่งอ่าวไทยกำลังแรง ขณะที่กทม.-ปริมณฑล มีฝนบางพื้นที่ช่วงเที่ยงถึงบ่าย...

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. จากการตรวจสอบสภาพอากาศทั่วไทย โดยไทยรัฐ ทีวี ร่วมกับเดอะ เวตเตอร์ คอมพานี พบว่า บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ซึ่งเมื่อมวลอากาศเย็นเข้ามาเจอกับอากาศร้อนที่ปกคลุมอยู่แต่เดิมจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก ซึ่งจะมีผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้ ในช่วงวันที่ 24-25 ก.พ. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ส่วนภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก สระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ก.พ. บริเวณภาคเหนือตอนล่าง บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก และพิจิตร ภาคกลาง บริเวณจังหวัดลพบุรี และสระบุรี กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 25-28 ก.พ.นี้

จากการคาดการณ์ลักษณะการตกของฝนในช่วงเช้านี้ จะเริ่มมีการก่อตัวของกลุ่มเมฆฝนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนมากบริเวณตอนกลางจนถึงตอนล่างของภาค หลังจากนั้นช่วงเที่ยงจะเริ่มเคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และจะมีโอกาสปกคลุมบริเวณดังกล่าวต่อเนื่องไปจนถึงช่วงสายวันพรุ่งนี้(25 ก.พ.) ในขณะที่พื้นที่ภาคใต้ กลุ่มเมฆฝนเริ่มมีการก่อตัวตั้งแต่ในช่วงเช้า และตลอดวันนี้ยังคงมีโอกาสตกอย่างต่อเนื่อง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อย่างไรก็ตามเช้านี้พื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีอากาศร้อนอบอ้าวเนื่องจากมีความชื้นจำนวนมาก ขณะที่ภาคเหนือมีอากาศเย็นสบาย ส่วนช่วงกลางวันพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะขยับขึ้นสูงสุดประมาณ 33 องศาเซลเซียส ขณะที่ภาคเหนือตอนล่าง ต่อเนื่องภาคกลางตอนบน อุณหภูมิร้อนถึงร้อนจัด คาดแตะที่ 38 องศาเซลเซียส ส่วนเช้าวันพรุ่งนี้(25 ก.พ)ต่อเนื่องวันอาทิตย์ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิลดลงอย่างเห็นได้ชัดประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส และกลับมามีอากาศเย็นสบายอีกครั้ง อุณหภูมิไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส

ภาพรวมสภาพอากาศแต่ละภูมิภาค

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก สระแก้ว ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ โดยช่วงเวลาที่มีโอกาสตกตั้งแต่ช่วงเที่ยงไปจนถึงบ่าย ซึ่งจะตกในบางพื้นที่เท่านั้น ส่วนช่วงสุดสัปดาห์นี้ วันเสาร์-วันอาทิตย์จะมีโอกาสตกเพิ่มขึ้น อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส