ใกล้กรุง! แก๊งตบทรัพย์โผล่อยุธยาฯ เลือกเหยื่อขับรถเก่า พยานพบ 2 เหตุซ้อน (ชมคลิป)

ใกล้กรุง! แก๊งตบทรัพย์โผล่อยุธยาฯ เลือกเหยื่อขับรถเก่า พยานพบ 2 เหตุซ้อน (ชมคลิป)

พลเมืองดีเห็นคาตา! เก๋ง 2 คันรุมปาดเบียดรถกระบะเก่าที่อยุธยา ก่อนเรียกค่าเสียหาย 8 พันบาท แต่เหยื่อปฏิเสธพร้อมขู่แจ้ง 191 เลยไปก่อเหตุกับรถกระบะเก่าอีกคัน ขณะที่ตำรวจเห็นคลิปแล้ว มีพฤติการณ์คล้ายแก๊งตบทรัพย์ จ่อตรวจสอบทะเบียนรถ...

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. มีรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์คลิปวิดีโอจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pairoj Familyman หลังจากเจ้าตัวได้ลงคลิปกล้องหน้ารถ ขณะจับภาพพฤติกรรมน่าสงสัยของรถยนต์เก๋ง 2 คันที่มีลักษณะเข้าข่ายแก๊งตบทรัพย์ ทำการปาดเบียด รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดราก้อนอาย สีบรอนซ์เทา โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า "#รถกะบะคือผุ้เสียหายนะครับ เหตุเกิด ช่วงเวลาประมาณ17.00น. วันที่11.2.60 กล้องหน้ารถจับเหตุการณ์ ถนน347 ปางปะอิน-บางประหัน ลงสะพานก่อนถึงศูนย์ศิลปชีพดูตามคลิป ผมเอาเบอร์ให้คนขับกระบะไปเผื่อจะใช้คลิป หลังจากออกมา3นาทีกระบะโทรมาบอกให้คุยกับเก๋งสีดำ ผมบอกเขาไปว่าดูเหมือนเขาขับไปชนกระบะเอง เดี๋ยวให้กระบะโทรแจ้งความเดี๋ยวผมวนเอากล้องไปให้ เก๋งเลยบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวเรียกประกันเอง หลังจากนั้นซักพักกระบะโทรมาบอกเขาเรียก8พันที่สำคัญเก๋งที่เบียดตอนแรกกลับมาสมทบด้วย กระบะเลยจะเรียกตำรวจ เก๋งบอกว่าไม่เอาความแล้วรีบแยกย้ายออกมา ยิ่งกว่านั้นคือ หลังจากนั้นซักพักผมแวะปั้ม ปตท.ก่อนถึงทุ่งมะขามหย่องน้องที่ขับกระบะก็ตามมาขอบคุณ พอออกจากปั้มมาก็เห็นเก๋งดำคันเดิม ยืนคุยกับกระบะเก่า อีกคันซึ่งผมคิดว่าเป็นเหยื่ออีกรายแต่ผมไม่เห็นเหตุการณ์เลยไม่กล้าจอด แค่โทรแจ้งความไว้รายละอียดที่กระบะคุยด้วยยาวกว่านี้เยอะครับ (กล้องราคาถูกไม่ค่อยชัดแต่ก็พอช่วยคนได้ครับ) ให้เครดิตกับตำรวจ สภ.บางปะอินกับ สภ.เมืองด้วยครับหลังจากที่โทรไปแค่ไม่กี่นาทีก็ถึงจุดที่แจ้งเหตุแต่ไม่ทันมันจริงๆ"

ทีมข่าวสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยจาก นายไพโรจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี เจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าวทราบว่า ช่วงเย็นของวันที่ 11 ก.พ. ขณะขับรถบนถนนสาย 347 มุ่งหน้าไปจังหวัดนครสวรรค์ เมื่อมาถึงช่วงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ได้พบเหตุดังกล่าว ตนจึงจอดท้ายรถกระบะอีซูซุ เพื่อให้เบอร์โทรศัพท์กับผู้ขับขี่ พร้อมบอกไปว่ารถตนมีกล้องหากต้องการใช้เป็นหลักฐานสามารถติดต่อได้ โดยขณะนั้นเก๋งสีดำคันที่ขับเบียดจอดอยู่ด้านท้ายห่างไปไปประมาณ 50 เมตร จากนั้นตนได้ขับรถออกมา

นายไพโรจน์ เล่าว่า เมื่อขับรถออกมาได้ไม่นาน ผู้ขับขี่รถกระบะได้ต่อสายมาพูดคุยกับตน โดยมีผู้ขับขี่เก๋งสีดำคันที่ขับเบียดร่วมสนทนาด้วย ซึ่งผู้ขับขี่เก๋งสีดำถามว่าเห็นเหตุการณ์ใช่หรือไม่ ตนจึงบอกไปว่าใช่ อีกทั้งลักษณะการชน รถกระบะก็ไม่ใช่ฝ่ายผิด หากไม่แน่ใจให้แจ้งตำรวจมาพิจารณาได้ แต่ทางฝ่ายเก๋งสีดำได้ตอบกลับมาว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวแจ้งประกันเอง" เมื่อตนเห็นท่าไม่ดีและดูแล้วมีพฤติกรรมต้องสงสัยจึงโทรแจ้งไปยัง สภ.บางปะอิน ให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ฝั่งผู้ขับขี่กระบะอีซูซุ ได้เปิดเผยกับนายไพโรจน์ว่า หลังวางสายทางเก๋งสีดำได้เรียกค่าเสียหาย 8,000 บาท แต่ยืนยันไปว่าไม่จ่ายพร้อมจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อคู่กรณีเห็นว่าไม่ได้แน่ๆ จึงแยกย้ายกัน ซึ่งนายไพโรจน์ได้จอดรอผู้ขับขี่รถกระบะที่ปั๊ม ปตท. ใกล้กับสี่แยกวรเชษฐ์ โดยขณะยืนคุยพบรถเก๋ง 2 คันในคลิปขับผ่านไป ตนจึงแยกย้ายกับผู้เสียหายและขับตามไปดู ปรากฎว่าพบรถเก๋งสีดำ จอดต่อท้ายรถกระบะเก่าอีกคันหนึ่ง โดยผู้ขับขี่รถกระบะเป็นชายชรา แฟนตนจึงโทรแจ้ง 191 เพื่อแจ้งไปยัง สภอ.พระนครศรีอยุธยา ให้มาตรวจสอบ

โดยพลเมืองดีรายนี้ยังได้ชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุทันที โดยจุดแรก (ตามคลิปวิดีโอ) นายไพโรจน์ได้โทรแจ้งตำรวจ สภ.บางปะอิน โดยที่ไม่ได้บอกคู่กรณี จึงทำให้ทั้งคู่แยกย้ายกันอย่างรวดเร็ว ส่วนกรณีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภอ.พระนครศรีอยุธยา ก็ได้โทรกลับมาแจ้งหลังลงพื้นที่ตรวจสอบว่าไม่พบเหตุ จึงเป็นไปได้ว่าแก๊งตบทรัพย์กลุ่มนี้ทำงานกันอย่างรวดเร็ว แต่เป็นที่น่าเสียดายว่ากล้องหน้ารถไม่สามารถจับภาพทะเบียนได้ รวมถึงตนและเหยื่อก็ไม่สามารถจดจำทะเบียนรถเก๋งทั้ง 2 คันได้

ทางด้าน พ.ต.ท.สุริยงค์ โพธิจันทร์ รอง ผกก.ป. สภ.บางปะอิน เปิดเผยกับทีมข่าวว่า จากคลิปวิดีโอมีพฤติการณ์ที่ค่อนข้างเชื่อได้ว่าจะเป็นแก๊งตบทรัพย์ แต่ขณะนี้ผู้เสียหายยังไม่มาแจ้งความ อย่างไรก็ตามชุดสืบสวนจะนำภาพทะเบียนรถเก๋งสีดำที่พอเห็นลางๆ ไปใช้เทคนิคเพื่อสืบหาข้อมูลผู้ขับขี่รถ จากนั้นจะได้ติดต่อไปยังผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของรถกระบะต่อไป.