กลัวแล้ว!! ร้านของเก่าในลำปางคืนประตูเมรุ ระบุพอตกดึก ความสยองบังเกิด! เพราะมีสิ่งนี้อยู่ที่บ้าน
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พระครูวิจิตร พัฒนวิมล รองเจ้าคณะตำบลเกาะคา เขต 1 และเจ้าอาวาสวัดน้ำผึ้งชาวไร่อ้อย ต.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง ได้เปิดเผยสืบเนื่องจากข้อเท็จจริงกรณีที่มีภาพแชร์ในโซเชียลมีเดียว่าเกิดเหตุการณ์แปลก เหลือเชื่อ และอาจจะถึงขั้นสยองขวัญตามความเชื่อส่วนบุคคลว่า มีการนำประตูเมรุหรือที่หลายคนรียกว่าประตูผี, ประตูเปิด-ปิดวิญญาณซึ่งเป็นเหล็กกลับมาคืนที่วัด หลังจากทางช่างของเทศบาล ต.เกาะคา ได้นำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง หลังจากได้รื้อถอนเมรุเก่าออก แต่กลับกลายเป็นเรื่องสุดสยองขวัญ หลังจากประตูผีได้อยู่ภายในโกดังร้านรับซื้อของเก่าก็เกิดเหตุประหลาดขึ้น พอตกดึก ไร้คนอยู่ร้าน ก็มีเสียงเหมือนพูดคุยกัน เดินไปเดินมา ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กับร้านรับซื้อของเก่าที่ทนฟังเสียงไม่ไหวก็ได้ออกมาดู ก็พบเหมือนมีเงาดำเหมือนคนเดินผ่านไปมาแต่ไม่ใช่คน กลับเป็นสิ่งเร้นลับที่หลายคนเรียกว่า “ผี” ต่อมาเจ้าของร้านจึงนำประตูเมรุกลับมายังวัดน้ำผึ้งชาวไร่อ้อย และนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปเข้ามาทำพิธีสวดถอนและนำประตูผีกลับมาป่าช้า ก่อนทำพิธีบังสุกุลเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
พระครูวิจิตรกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทั้งหมดนั้น “เป็นเรื่องจริง” ที่ทางร้านรับซื้อของเก่าเอาประตูเมรุกลับมาคืน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อน และขณะนี้ประตูผีดังกล่าวก็อยู่ภายในป่าช้าของวัด แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์แปลกใดๆ ขึ้น ซึ่งหลังจากทางร้านนำกลับมา อาตมาก็ได้สอบถามเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าที่นำกลับมาคืน ก็ทราบว่าชีวิตความเป็นอยู่ขณะนี้ก็เป็นปกติสุขแล้ว ไม่มีเหตุการณ์แปลกๆ หรือเหตุการณ์สยองขวัญเหมือนที่เคยเจอครั้งที่ประตูผีอยู่ภายในโกดังของร้านอีก
“ในเรื่องนี้ขอย้ำว่าเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลต่อเหตุการณ์ที่พบเจอและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยชาวบ้านเชื่อว่าประตูเมรุหรือประตูผีได้ผ่านการเผาศพหลายร่างมานับไม่ถ้วน โดยเมรุเก่าที่ถูกรื้อถอนไปได้ใช้งานมานานกว่า 50-60 ปีตั้งแต่ในอดีตจนเก่าและชำรุด ทางเทศบาล ต.เกาะคา ก็ได้รื้อถอนออกและได้สร้างของใหม่ขึ้น ทำให้ของเก่าต่างๆ ก็ต้องขายไปตามระเบียบ เมื่อประตูผีซึ่งเป็นเหล็กเก่ามีน้ำหนักมาก ทางช่างเทศบาลจึงนำไปขาย ฉะนั้น ตามความเชื่อของชาวบ้านที่ว่าอาจจะมีวิญญาณที่ยังไม่ไปเกิดยังคงวนเวียน หรือยังคงห่วงหาอาลัย ยังคงวนเวียนอยู่กับประตูผี ซึ่งเป็นประตูสุดท้ายก่อนที่ร่างจะจากโลกนี้ไป” พระครูวิจิตรกล่าว
พระครูวิจิตรยังกล่าวอีกว่า ตามหลักพระพุทธศาสนาแล้วก็เป็นเพียงแต่วิญญาณ เป็นของไม่มีรูปมีร่าง สิ่งแบบนี้ก็ต้องฟังหูไว้หู ขอให้ยึดหลักตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เป็นของที่ไม่จีรังยั่งยืน เป็นของไม่มีตัวไม่มีตน จึงขอให้ยึดหลักทำดี ประพฤติดี จะเกิดบุญเกิดกุศลขึ้นกับตัวเรา คนที่ทำดีแล้วเมื่อตายก็จะไปสู่สรวงสวรรค์ คนที่ทำชั่วก็ต้องตกนรก ตามกรรมที่ใครได้ก่อไว้ในครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ เรื่องดังกล่าวก็มีอยู่เพียงเท่านี้