เคล็ดศักดิ์สิทธิ์ เสริมสิริมงคลให้ตัวเองด้วยเคล็ดบูชาเทวดาประจำตัว
การบูชาเทวดาก็เหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่เราต้องทำการ “ปฏิบัติบูชา” ด้วยการสร้างคุณงามความดีให้มาก ๆ ภายหลังการทำบุญใด ๆ แล้วก็ต้องทำการเชื่อมบุญไปให้ท่านโดยเมื่อขณะที่กรวดน้ำให้ตั้งจิตอธิษฐานอุทิศบุญให้ท่านด้วยประโยคอุทิศบุญที่ว่า
“อิทัง สัพพะเทวานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา” ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงจงมีความสุข เมื่อทำการเชื่อมบุญให้เทวดาได้รับบุญนั้นไปแล้วเทวดาก็จะมีความรู้จักกับผู้ที่ทำบุญอุทิศไปให้ เวลาที่เราเกิดเรื่องราวเดือดร้อนในทางใดก็ตามท่านก็จะมาช่วยเราได้อย่างแน่นอน และถ้าอยากจะพิสูจน์ว่าจะพบกับประสบการณ์ของการอวยพรให้คุณของเทวดาเหล่านั้น เราต้องทำเหตุให้ถูกตรงกับผลด้วย
ในที่นี้หมายถึงการพัฒนาจิตให้มีคุณธรรมเช่นเดียวกับเทวดา อาทิ เรายังต้องคงความมีศีลธรรม มีความประพฤติละอายชั่วกลัวบาป (หิริโอตตัปปะ) มีกายวาจาใจเป็นอุโบสถศีลอยู่เป็นปกติทุกขณะ มีสภาวะของจิตที่ดีใสสะอาด ผู้ที่ได้ประพฤติได้ถูกตรงตามนี้แล้ว การพบเห็นเทวดาประจำตัวหรือเทวดาในที่อื่นใด ย่อมเกิดขึ้นได้และท่านก็จะอำนวยพรให้ประสบความสุขความสำเร็จได้เช่นกัน
หมั่นบูชาเทวดาประจำวันเกิด ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านได้เมตตาบอกไว้ว่า ในแต่คนละคนจะมีเทวดาคอยคุ้มครองอยู่ คือ เทวดาเหล่านี้จะคอยช่วยปกปักษ์รักษาและดูแลดวงชะตาของเราให้อยู่อย่างเป็นปกติสุข โดย เทวดาประจำวันเกิดจะมีชื่อเรียกต่างกัน ตามวันของคน ได้แก่
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันอาทิตย์ มีนามว่า ระวิเทพ (พระอาทิตย์)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันจันทร์ มีนามว่า จันทะเทพ (พระจันทร์)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันอังคาร มีนามว่า ภุมมเทพ (พระอังคาร)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันพุธ (กลางวัน) มีนามว่า วุธะเทพ (พระพุธ)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันพุธ (กลางคืน) มีนามว่า อะสุรินทะราหูเทพ (พระราหู)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันพฤหัส มีนามว่า คะรุเทพ (พระ พฤหัส ,พระครุ)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันศุกร์ มีนามว่า สุกกะเทพ (พระศุกร์)
เทวดาประจำวันเกิดสำหรับคนเกิดวันเสาร์ มีนามว่า สุระเทพ (พระเสาร์)
หากใครไม่เคยกราบไหว้เทวดาประจำวันเกิด ก็ขอให้น้อมจิตตั้งมั่น ระลึกถึง พระคุณของเทวดาผู้เป็นผู้คุ้มครองชีวิต ขอให้เชื่อในสิ่งที่ทำว่าเป็นการกระทำที่ดีแล้ว เอาจิตใจที่เป็นกุศลบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง และกล่าวสวดมนต์บูชาเทวดาว่า
“โย สัพพะภะยันตะรายา มัง อะนุรักขันตุ ตัง คุณะวันตัง ชะตาเทวัง อาทะเรนะ วันทามิ” แล้วจึงก้มลงกราบครั้งที่ 8 ภายในใจตั้งจิตมั่นอธิษฐานเพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลแก่ตัวของเราเองว่า
“ด้วยอานุภาพแห่งบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาในวันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศบุญนี้แด่เทวดาประจำวันเกิดของข้าพเจ้า ( พร้อมเอ่ยชื่อ เทวดาประจำวันเกิดของเรา) ขอให้องค์เทวดาจงมีความสุขอยู่ในวิมานของท่านตามแต่บุญญาธิการของท่าน ขอให้เทวดาช่วยปกปักรักษาดลบันดาลให้ ดวงชะตาของข้าพเจ้ามีความเจริญรุ่งเรือง ในทุกที่ทุกสถานทุกกาลทุกเมื่อด้วยเถิด”
ด้วยเทวดานั้นมีร่างเป็นกายทิพย์ ท่านจึงไม่อาจทำบุญทำกุศลได้เพราะไม่มีกายเนื้อ การที่ท่านมีกายทิพย์และมีสุขอยู่ในเทวโลกเพราะเมื่อครั้นเป็นมนุษย์ได้บำเพ็ญคุณงามความดีมามากพอ จึงได้ไปเกิดเป็นเทวดา ในทางกลับกัน เทวดานั้น ถือว่า มนุษย์ มีสถานะที่สูงกว่าเทวดาตรงที่ “มนุษย์ สามารถทำความดี ทำบุญ เพิ่มได้” ขณะที่เทวดาทำบุญเพิ่มไม่ได้ การที่เราสวดมนต์ระลึกถึงบุญคุณของเทวดา และ อุทิศบุญไปให้ท่านจึงถือได้ว่า เป็นการช่วยเหลือเทวดาอย่างสูง เมื่อเราอุทิศบุญให้ท่าน ดำรงตนอยู่ในศีลธรรม เหล่าเทวดาก็จะคอยช่วยเหลือสนับสนุนค้ำจุนให้ชีวิต เจริญก้าวหน้า พบกับความเป็นสิริมงคลอื่นๆ อีกมากมาย