พากันไปฟิน! 10 ไร่ชาวิวสวยในเมืองไทย หนาวนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว
หน้าหนาวนี้ หลายคนก็คงอยากขึ้นเหนือ เพื่อไปเที่ยวธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ อีกทั้งชมวิวทะเลหมอกสวยๆ กันแน่นอน ซึ่งนอกจากการขึ้นดอย ชมดอกไม้ ทะเลหมอกแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ก็คงจะเป็น “ไร่ชา” ในเมืองไทยนั้นมีไร่ชาขึ้นชื่อหลายที่ และแต่ละที่นั้นนอกจากจะได้ถ่ายรูปไร่ชาทอดยาวตามขั้นบันไดแล้ว ก็สามารถชิมชากลิ่นหอมๆ ได้อีกด้วย ตาม Travle.mthai ไปฟิน! กับ 10 ไร่ชาวิวสวยในเมืองไทย หนาวนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว กัน …
1. ไร่ชา บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ของเริ่มต้นกันที่ ไร่ชาบ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน แห่งนี้ หมู่บ้านรักไทย หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า บ้านแม่ออ เป็นหมู่บ้านเล็กๆอยู่กลางหุบเขา ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง อยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 44 กม. เป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงชายแดนไทย-พม่า ในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานแต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
หน้าหนาวนี้นอกจากจะได้ฟินกับบรรยากาศดีๆ ของไร่ชาเขียวขจี ยังล้อมรอบไปด้วยทิวเขาและพันธุ์ไม้ต่างๆ โดยเฉพาะพืชเมืองหนาวแล้ว บริเวณหมู่บ้านยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และทะเลสาบที่สวยงาม นั่งจิบชาอุ่นๆ มองผืนน้ำกว้างไกล ฟีลกู๊ดแบบนี้จะพลาดได้ยังไง!
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ลีไวน์รักไทย รีสอร์ทสไตล์จีนยูนาน ที่แม่ฮ่องสอน
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
2. ไร่ชาลุงเดช จังหวัดเชียงใหม่
ไร่ชาลุงเดช ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ไร่ชามีพื้นที่ราวๆ 6 ไร่ อยู่ในความดูแลของโครงการหลวง ปลูกชาพันธุ์ดี 2 สายพันธุ์คือ ชาเบอร์ 12 และพันธุ์ก้านอ่อน ที่ได้รับมาจากมูลนิธิโครงการหลวง เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเมื่อเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมา จวบจนปัจจุบันนี้ ไร่ชานี้ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านดีขึ้น สร้างงาน สร้างราย และสอนให้ชาวบ้านนั้นอยู่อย่างพอเพียง นอกจากปลูกไร่ชาที่ทอดยางตามขั้นบันไดแล้ว ไร่ชาลุงเดชยังมีปลูกผลไม้นานาชนิด และกาแฟพันธุ์ดีอีกด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง เชียงใหม่ 50150
โทรศัพท์ : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ 0 5331 8308
3. ไร่ชาระมิงค์ จังหวัดเชียงใหม่
ไร่ชาระมิงค์ แหล่งกำเนิดชาแรกของไทย ที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 70 ปี ที่นี่ทำไร่ชา และผลิตใบชาในพื้นที่ภูเขาสูง 900-1200 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนดอยเชียงดาว แหล่งต้นน้ำปิง อ. แม่แตง จ.เชียงใหม่ กว่า 3,000 ไร่ มีชาหลากหลายสายพันธุ์ และถือเป็นแหล่งกำเนิดชาแห่งหนึ่งของโลก ที่นี่นิยมปลูกชาสายพันธุ์อัสสัม หรือชาฝรั่ง ซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย
ที่ตั้ง : 49 หมู่ 16 ต.อินทขิล แม่แตง เชียงใหม่ 50000
โทรศัพท์ : 053 242 292
4. ไร่ชา 2000 จังหวัดเชียงใหม่
ไร่ชา 2000 หุบเขาเล็กๆ แต่มากความสวยงาม ด้วยทัศนียภาพแห่งทะเลหมอก และไร่ชา ไร่สตรอเบอร์รี ขั้นบันไดตามเนินเขา เป็นภาพที่คุณจะต้องประทับใจ เพราะทะเลหมอกของที่นี่ เปรียบดังสายน้ำที่กำลังไหลผ่านช่องเขา โอบล้อมรอบกาย เห็นแล้วสบายตา อยากหยุดเวลาไว้เพียงเท่านี้
แนะนำครับอีกเป็นอีกหนึ่งจุดสะดุดตา ที่ใครหลายคนเห็นก็ต้องชอบแน่ๆ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินชา หรือชอบที่จะมาสัมผัสอากาศหนาวบนดอยอ่างขาง หาวิวสวยๆในการถ่ายรูปแล้วละก็ไม่ควรพลาด จุดน่าสนใจของแปลงชา2000ยังมีอีกหลายจุดโดยเฉพาะจุดชมวิว ที่เขาทำใว้2จุดหลักๆ คือด้านบนตรงบริเวณกังหันลมแคนนอน
ที่ตั้ง : สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ดอยอ่างขาง ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง เชียงใหม่ 50110
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โทร. 0 5345 0107 – 9
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : ไร่ชา 2000 ดอยอ่างขาง สุดยอดเส้นทางแห่งทัศนียภาพ
5. ไร่บุญรอด จังหวัดเชียงราย
ไร่บุญรอด หรือ สิงห์ปาร์ค เชียงราย ตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.เชียงราย เส้นทางเดียวกับทางไปวัดร่องขุน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ภายในไร่บุญรอดมีการจัดแต่งสวนดอกไม้เมืองหนาวสีสันสวยงามนานาชนิด มีพื้นที่เกษตรกรรมและไร่ชากว่า 600 ไร่ โดยจัดเป็นรูปแบบฟาร์มทัวร์ให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชม นอกจากนี้ยังสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามในบรรยากาศแห่งขุนเขาเมืองเหนือ ชมพระอาทิตย์ยามเย็นก่อนลับขอบฟ้า และรับประทานอาหารอร่อยได้ที่ร้านอาหารภูภิรมย์ บนจุดชมวิว 360 องศา อีกด้วย
ไร่สิงห์ปาร์คเชียงรายเปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดปี รถฟาร์มทัวร์ให้บริการเป็นรอบๆ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.15 น.โดยออกรอบทุกๆ ครึ่งชั่วโมง วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์รถฟาร์มทัวร์ให้บริการแบบ Shuttle Bus ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.15 น. ออกรถทุก 15 นาที
ที่ตั้ง : ตำบล แม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย เชียงราย 57000
โทรศัพท์ : 086 359 1864
6. ไร่ชาวาวี จังหวัดเชียงราย
ไร่ชาดอยวาวี ตั้งอยู่บนดอยวาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ชาบนดอยวาวี มีทั้งชาพันธุ์พื้น เมืองสายพันธุ์ “อัสสัม” ชาสายพันธุ์ไต้หวันอย่างชิงชิง เบอร์ 12, 13 และชา “อู่หลง” ที่ดอยวาวีถือเป็นแหล่งปลูกชาอู่หลงแห่งแรกของเมืองไทย โดยคุณลุงพังโกได้นำชาอู่หลงเข้ามาปลูกในเมืองไทยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ลองผิดลองถูกจนได้เป็นชาอู่หลงแบบไทยๆ
ที่ตั้ง : ดอยวาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
สอบถามรายละเีอียดเพิ่มเติมได้ที่
- อบต.วาวี โทร. 053-605950
- สมาคมท่องเที่ยวเชียงราย โทร. 053-601299, 053-715690
- สถานีฯ เกษตรวาวี 053-605932, 053-605934
7. ไร่ชา 101 จังหวัดเชียงราย
ไร่ชา 101 ได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดสุดยอดชาโลกบนดอยแม่สลอง มีต้นชาเรียงรายเป็นแถวยาวตามขั้นบันได้ชิมรสชาติชาหอมๆ อีกทั้งบรรยากาศของหุบเขาที่ล้อมรอบ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ หากมาในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะปกคลุมด้วยสีชมพูหวานๆ ของดอกนางพญาเสือโคร่ง อีกด้วย
ที่ตั้ง : 29/1 ม.1 ดอยแม่สลอง ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
เบอร์โทรศัพท์ : 0 5371 0029
เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 7.00 – 17.00 น.
เว็บไซต์ : www.101teathailand.com
8. ไร่ชาฉุยฟง จังหวัดชียงราย
ไร่ชาฉุยฟงเป็นแหล่งปลูกชาชั้นดี เป็นผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ปัจจุบันมี 2 แห่ง ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ในอำเภอแม่จัน เชียงราย ก่อนถึงบ้านเทอดไทย ซึ่งเป็นไร่ชาแห่งที่ 2 เปิดได้ประมาณ 2 ปีกว่า มีพื้นที่กว้างและได้บรรยากาศ ของไร่ชาที่ กว้างใหญ่ ปลูกโค้งวนไปตามไหล่เขา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแวะถ่ายภาพและชมความงามได้หลายจุด
ที่อยู่ : ตำบล แม่จัน อำเภอ แม่จัน เชียงราย 57110
โทรศัพท์ : 053 771 563
เปิดทำการ : 8.30 – 17.30
9. ไร่ชาหงษ์ฝู่ เชียงราย
ไร่ชาหงษ์ฝู่ ตั้งอยู่ ณ ดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์ใจกลางหุบเขา บริเวณไร่ชาหงษ์ฝู่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้ นานาชนิดและสวนดอกไม้ที่สวยงาม อาทิ ดอกบ๋วยดอกพระยาเสือโคร่ง (ซากุระแห่งเมืองไทย) , ดอกหอมหมื่นลี้ อีกทั้งบรรยากาศหมอกยามเช้า ท่ามกลางไร่ชาสวยโอบล้อมด้วยทุ่งกว้างและขุนเขาธรรมชาติ อันแสนอบอุ่น สัมผัสอากาศเย็นสบายแสนสดชื่น
ที่ตั้ง : 13/3 หมู่1 ตำบลแม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย 57110
เบอร์โทรศัพท์ : 0805580066
วันและเวลาเปิด ปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.
10. ไร่ชาวังพุดตาล จังหวัดเชียงราย
ไร่ชาวังพุดตาล เป็นอีกหนึ่งไร่ชาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนดอยแม่สลอง ไร่ชาแห่งนี้มีเอกลักษณ์เด่นเป็นสิงโตเงิน สิงโตทองขนาดมหึมาตั้งอยู่ทางด้านหน้าประตูทางเข้าไร่ชา นอกจากนั้นยังมีกาน้ำชาขนาดใหญ่ตั้งเรียงกัน 4 ใบ 4 ทิศ ผู้พบเห็นต่างยกย่องให้เป็นกาน้ำชาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่พิเศษคือกาน้ำชาใบยักษ์นี้ “ลอยได้”
โดยความโดดเด่นที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นในพื้นที่ไร่ชาวังพุดตานแห่งนี้ ทำให้เกิดเป็น Landmark ของดอยแม่สลอง ที่หากใครได้เห็นภาพกาน้ำชาขนาดยักษ์นี้จะนึกถึงดอยแม่สลองได้ในทันที ในช่วงฤดูท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมและถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก รวมถึงไม่พลาดที่ชิมและซื้อชาคุณภาพกลับไปชงที่บ้าน
ที่ตั้ง : ดอยแม่สลอง ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย