หนาวนี้เที่ยวดอยไหนดี...!! ชวนแฟนไปเที่ยวกันเถอะ
สายหมอกคลอเคลียยอดภูผา แสงสีส้มจากดวงอาทิตย์กลมโตค่อย ๆ ฉาบทาไปทั่วท้องฟ้า ยอมรับมาเถอะว่าคุณอยากสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้
ภูสอยดาว
“ใกล้ถึงแล้ว เดินอีกหน่อย เหนื่อยมั้ย ไหวมั้ย พักก่อนก็ได้นะ” เป็นคำพูดแสดงความเป็นห่วงเป็นใยระหว่างเพื่อนร่วมทาง ที่ตกลงปลงใจร่วมเดินเท้าขึ้นเขาสู่ ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งมีระยะทาง (แบบไต่ขึ้นเขา) ยาวถึง 6.5 กิโลเมตร และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,633 เมตร! ซึ่งนอกจากแรงจูงใจของภาพความงามจากธรรมชาติที่วาดฝันไว้ก่อนตัดสินใจออกเดินทาง ก็มีกำลังใจจากเพื่อนร่วมทางนี่แหละ ที่เป็นยาชูกำลังชั้นดีของการเดินพิชิตภู แหม…ว่าแล้วก็อดคิดถึงเรื่องราวดี ๆ เหล่านั้นไม่ได้เลยจริง ๆ
ภูสอยดาวมีพื้นที่ทั้งหมด 212,633 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัดคือ พิษณุโลกและอุตรดิตถ์ อีกทั้งยังเป็นพรมแดนกั้นระหว่างประเทศไทยกับ สปป.ลาว และด้วยความที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงชัน จึงทำให้มีสภาพภูมิอากาศที่เย็นตลอดปี แต่ในช่วงฤดูฝนก็จะมีปริมาณน้ำจำนวนมากเช่นกัน นับว่าเป็นพื้นที่ป่าที่มีความสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ด้านไฮไลต์สำหรับนักท่องเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวของที่นี่คือ ทุ่งดอกหงอนนาค ราชินีแห่งภูสอยดาว รวมถึงสร้อยสุวรรณ กระดุมเงิน หยาดน้ำค้าง และดอกไม้ป่าหายากอื่น ๆ ซึ่งพร้อมใจกันเบ่งบานกันใต้ต้นสนสามใบสูงชะลูดเรียงรายกันเป็นทิวแถว
สายหมอกยามเช้าลอยเอื่อยมาทักทายถึงหน้าเต็นท์ ปุยสีขาวลอยเข้าปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ราวกับอยู่ในความฝัน เช้านี้แค่ได้เครื่องดื่มอุ่น ๆ กับข้าวต้มร้อน ๆ สักถ้วยก็นับได้ว่าเป็นสวรรค์ของมื้อเช้าแล้วล่ะ แล้วขอนั่งนิ่ง ๆ ดูทะเลที่ลอยอ้อยอิ่งไปเรื่อย ๆ ละกัน
CONTACT
หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
0 5543 6001 (สำนักงานอุทยาน)
www.dnp.go.th
ดอยแม่ตะมาน สถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ
ทางโค้งขึ้นเขานับร้อยโค้ง ถนนดินลูกรังเป็นหลุมตลอดทาง กับระยะทางอีก 22 กิโลเมตร นี่คือการเดินทางของฉัน เล่นเอาของที่ทานเข้าไปเกือบจะออกมาหลายรอบอยู่เหมือนกันวิวสองข้างทางเป็นป่าดงดิบสลับกันไปกับแนวสันเขา เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ป้ายบอกทาง หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน เสมือนจุดสิ้นสุดการเดินทาง (ที่ค่อนข้างจะทรมาน) ในครั้งนี้แต่ช้าก่อนจุดหมายของเรายังต้องขึ้นไปอีก 2 กิโลแม้ว เฮ้ย! กิโลเมตร ถึงจะเป็นจุดสูงที่สูงของยอดเขาแห่งนี้ในนามว่า ดอยแม่ตะมาน
เวลาตี 5 กับอุณหภูมิประมาณ 13 องศาเซลเซียส ที่มาพร้อมกับสายลมเย็นช่างหนาวจับใจยิ่งนัก แต่ทำไงได้ล่ะ ก็อยากเห็นความสวยงามของธรรมชาติเองนี่ ไอเย็นพุ่งออกจากปากยามสนทนา เสื้อกันหนาวถูกกระชับเข้าหาตัว ดอกนางพญาเสือโคร่งเริ่มผลิบานรับลมหนาว ปลายสุดขอบฟ้าเริ่มมีแสงสว่างจนไล่มาอยู่ตรงหน้า ด้านหน้าเป็นยอดดอยหลวงเชียงดาวที่มีพื้นหลังเป็นภูเขาสลับกันไปมา ริ้วเมฆถูกฉาบให้เป็นสีทองจากแสงอาทิตย์ สายหมอกยามเช้ากลายเป็นทะเลหมอกสีทองอร่ามงดงามเกินบรรยาย
“เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม ฉันเก็บเอาไว้ให้เธอ…” เสียงฮัมเพลงอย่างมีความสุขจากหนุ่มคนข้าง ๆ เมื่อแสงแรกของวันส่องมาทักทาย ควันไฟจากการประกอบอาหารเริ่มมีให้เห็น บางกลุ่มเริ่มเก็บเต็นท์และสัมภาระเตรียมพร้อมจะเดินทางกลับ คงมีแต่ฉันเท่านั้นที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่ เฝ้ามองดูสายหมอกที่เหลือจาง ๆ และหมู่เมฆที่เริ่มหนาขึ้น ยอดดอยหลวงเชียงดาวตรงหน้าถูกปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆ ตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มสวยงามดั่งภาพวาดจากปลายพู่กันของจิตรกรจีน ฉันเลือกจะนั่งมองความสวยงามเบื้องหน้าอยู่แบบนั้น เพราะไม่รู้ว่าพอกลับมาอีกในครั้งหน้าจะเจอความสวยงามแบบนี้หรือเปล่า เลยขอเก็บภาพความสวยงามแบบนี้ให้อยู่เป็นความทรงจำตลอดไป
CONTACT
หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่0 5322 2014 (ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)www.agri.cmu.ac.th
ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน
รถยนต์สี่ล้อวิ่งผ่านถนนสายยาวที่มีต้นสักทองสูงใหญ่ให้ร่มเงาอยู่สองข้างทาง ใบไม้แห้งถูกลมหนาวพัดหวิว ๆ ปลิวลงสู่พื้นถนน ที่เห็นอยู่ไกลลิบ ๆ นั่นคือป้ายของ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ที่ในขณะนี้พาหนะและผู้คนจำนวนมากต่างกำลังต่อคิวขึ้นไปรับลมหนาวและชมความงดงามของ ดอยเสมอดาว ไฮไลต์สำคัญประจำอุทยานแห่งนี้
เด็กน้อย 4-5 คนกำลังเป่าบับเบิลกันอย่างสนุกสนาน ถัดไปไม่ไกลกลุ่มวัยรุ่นนั่งล้อมวงร้องเพลง เล่นกีตาร์ชนิดที่ว่าโลกทั้งใบเป็นของพวกเขา ขณะที่คุณพ่อคุณแม่ต่างก็ทำหน้าที่ของผู้ใหญ่ ก่อกองไฟเพื่อเตรียมอาหารมื้อเย็นที่มีทั้งบาร์บีคิวและหมูหัน!!!…ถึงตอนนี้เท่าที่สังเกตดู ทุกคนต่างก็มีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ ฉันเห็นท่าไม่ค่อยดี เลยต้องออกตามหาความสุขกับเขาบ้าง และก็ดูเหมือนว่า ผาหัวสิงห์ ที่อยู่ตรงหน้า น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดกว่าจะขึ้นมาถึงยอดของผาหัวสิงห์ได้ก็เล่นเอาได้เหงื่ออยู่เหมือนกัน แต่ความเหนื่อยที่ว่ากลับหายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามจับใจแบบ 360 องศา ฝั่งหนึ่งเป็นทิวเขาสีเขียวสลับซับซ้อนไปไกลสุดลูกหูลูกตาของประเทศลาว ในขณะที่อีกฝั่ง พระอาทิตย์ดวงกลมโตกำลังคล้อยต่ำลงเรื่อย ๆ ย้อมสีนาขั้นบันได ไร่ข้าวโพด และแม่น้ำน่านให้เป็นสีเหลืองทอง จนแทบอยากจะขอหยุดเวลาไว้ตรงนี้
อาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ส่งพระจันทร์และดวงดาวขึ้นมาทำหน้าที่แทน และในตอนนี้ที่ลานดูดาวก็ถูกจับจองพื้นที่จนแน่นไปหมด ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าภาพที่เห็นอยู่ขณะนี้ช่างสวยงามราวกับท้องฟ้าจำลองที่เคยไปทัศนศึกษาตอนเด็ก ๆ จะต่างกันก็เพียงแค่ในคราวนี้เป็นแสงจากดวงดาวจริง ๆ ที่ทำให้ท้องฟ้าคืนเดือนมืดกลับมีเสน่ห์ขึ้นอีกหลายเท่าตัวโดยสาเหตุที่เราสามารถมองเห็นดาวได้ชัดและใกล้ขนาดนี้ ก็เป็นเพราะว่าที่ตั้งของดอยเสมอดาวนั้น อยู่บนเนินสูงและมีมุมของท้องฟ้าในลักษณะเปิดโล่งนั่นเอง
ค่ำคืนที่เหน็บหนาวกำลังค่อย ๆ ผ่านพ้นไป พร้อม ๆ กับดวงตะวันของเช้าวันใหม่ ที่เคียงคู่ด้วยสายลมเย็น ๆ และปุยหมอกสีขาว น่าเสียดายที่สภาพอากาศและความชื้นในวันนี้ไม่เป็นใจให้เห็นเป็นทะเลหมอก แต่ในทางกลับกัน รอยยิ้มและอ้อมกอดของนักท่องเที่ยวที่มีให้กันและกัน ก็เพียงพอที่จะทดแทนความงดงามของธรรมชาติเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
เมื่อเก็บสัมภาระเรียบร้อย มือสองข้างของฉันในตอนนี้กำลังผิงอยู่บนเตาอั้งโล่ที่มีกาน้ำสังกะสีแบบบ้าน ๆ พ่นควันออกมาอย่างต่อเนื่อง การได้กาแฟร้อน ๆ สักถ้วยมาอังไว้ในมือท่ามกลางอากาศเย็นสบายของที่นี่ กลับกลายเป็นความสุขแบบง่าย ๆ ในช่วงเวลาสุดท้ายของฉัน ที่เก็บใส่กระเป๋ามาด้วยจากอุทยานแห่งชาติศรีน่านแห่งนี้
CONTACT
อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ต.ศรีสะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน0 5473 1714www.dnp.go.thณ ดอยเสมอดาว หนาวถึงผาชู้
ดอยจี๋ อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน
รอยยิ้มสีขาวตัดกับผิวแห้งกร้านสีเข้มของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ช่างเป็นความขัดแย้งแบบสุดขั้วที่ทำให้โลกใบนี้ดูสดใส “ยินดีต้อนรับสู่ อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ครับ” เป็นคำพูดแสนธรรมดาที่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น “เดี๋ยวผมจะขับรถพาขึ้นไปบนที่พักก่อนนะครับ เก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราไปเดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติกัน” เจ้าหน้าที่คนเดิมชี้แจงโปรแกรมของช่วงสายวันนี้ ก่อนที่จะสตาร์ทรถโฟร์วีลคันใหญ่พาฉันไปยังที่พักที่เส้นทางนั้นสูงชันและโหดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
แล้วเส้นทางศึกษาธรรมชาติก็เริ่มต้นขึ้น ณ ลานจันทน์ผา ที่ถูกจัดตกแต่งไว้ด้วยดอกไม้หลากสี แต่ไฮไลต์สำคัญของลานแห่งนี้กลับอยู่ที่ ฟอสซิลดึกดำบรรพ์ ในไฟลั่มหอยที่มีอายุเก่าแก่กว่า 270 ล้านปีเลยทีเดียว เมื่ออ่านข้อมูลเสร็จสรรพ ฉันก็ก้าวขาตามเจ้าหน้าที่อุทยานไปเรื่อย ๆ ซึ่งระหว่างทางก็มีพรรณไม้สวยงามหลากหลายชนิดให้ได้ชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นอั้วพวงมณี กล้วยไม้ดินสีชมพู ประทัดดอย ไม้พุ่มที่มีดอกสีแดงสดคล้ายกับประทัด รวมไปถึงใบเมเปิล ที่กำลังแตกใบใหม่อย่างน่ารักน่าชัง
แล้วตอนนี้ฉันก็มายืนอยู่ตรงหน้า ถ้ำทอง อีกหนึ่งสถานที่สุดอันซีน ที่ต้องบอกอย่างนี้ก็เพราะว่าสภาพของหินงอกหินย้อยที่พบเห็นในถ้ำส่วนใหญ่นั้น มักจะเป็นหินควอตซ์ที่ถูกกัดเซาะเป็นรูปร่างต่าง ๆ แต่หินของถ้ำแห่งนี้กลับแปลกแตกต่างออกไป ด้วยการมีแร่สีทองคล้ายทองคำเปลวเป็นริ้วเกาะอยู่ตามซอกหิน และนั่นจึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำทองนั่นเอง
“เร็วหน่อย ๆ เดี๋ยวไม่ทันเห็นสายรุ้งนะ” เสียงของเจ้าหน้าที่เร่งฉันในขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการใช้ไฟฉายส่องทองอยู่ภายในถ้ำ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมทำตามแต่โดยดี เพราะไม่อยากพลาดสายรุ้งที่เกิดจากการตกกระทบและหักเหของแสงบน น้ำตกผาธาร หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกสายรุ้ง โดยสายรุ้งที่ว่านั้นเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่จะมีให้เห็นเพียงวันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ระหว่าง 10-11 โมงเช้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันมีนัดกับเจ้าหน้าที่อุทยานตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง โดยเรามีคิวออกเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ ดอยจี๋ อันเป็นยอดเขาสูงสุดของอุทยานฯ รถโฟร์วีลคันเดิมขับผ่านโค้งแล้วก็โค้งเล่า แข่งกับเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตอกบัตรเข้างาน และทันทีที่รถเร่งเครื่องเข้าสู่เนินสุดท้ายของจุดชมวิว เสียง “อู้ววว!” ของทุกคนก็ดังขึ้นพร้อมกัน เป็นเสียงแห่งความทึ่งในธรรมชาติที่คงไม่มีโอกาสได้เห็นที่กรุงเทพฯ เป็นเสียงแห่งความประทับใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า และเป็นเสียงสะท้อนในความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติมอบให้ กับที่แห่งนี้… อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ซึ่งหากใครที่อยากรู้ว่าสวยขนาดไหนนั้น ก็คงต้องลองหาเวลาไปสัมผัสและชื่นชมด้วยตาของตัวเอง
CONTACT
อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ต.ยอด อ.สองแคว จ.น่าน
08 9045 9831 (สำนักงานอุทยานฯ)
www.dnp.go.th
ไร่ชาฉุยฟง ดอยแม่สลอง
แม้ว่าเช้าวันนี้ฉันจะเริ่มออกเดินทางในช่วงเวลาที่ไม่มีโอกาสได้เห็นสายหมอกล่องลอยคล้อยผ่านยอดเขา แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความน่าสนใจของวันลดลงแม้แต่น้อย รถมุ่งหน้าสู่ ไร่ชาฉุยฟง หรือที่แปลได้ว่า เนินเขาสีเขียว แห่งบ้านแม่สลองนอก เนินเขาน้อย ๆ ที่เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นชา เห็นแล้วก็แอบตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยกับภาพเบื้องหน้า พาให้ใจเผลอลอยไปอยู่
บนเนินชาเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อมาถึงจุดต้อนรับนักท่องเที่ยว ฉันไม่รอช้าที่จะเร่งฝีเท้าเพื่อแปลงร่างเป็นหนอนน้อยชาเขียวตามล่าหายอดชาแบบใกล้ชิด และช่างเป็นเวลาที่เหมาะเจาะพอดีกับช่วงที่ชาวเขาในไร่กำลังทำหน้าที่เก็บยอดชากันอย่างแข็งขัน ดูเป็นภาพที่น่ารักเหมือนหลุดออกมาจากโฆษณาที่เคยเห็นอย่างไรอย่างนั้น แบบนี้คงต้องขอเก็บช็อตชวนยิ้มไว้เป็นที่ระลึกเสียหน่อยแล้วแอบกระซิบไว้นิดนึงว่าไร่ชาฉุยฟงแห่งนี้เป็นที่ถ่ายทำละครมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง ทั้งมัจจุราชสีน้ำผึ้ง รักออกอากาศ แววมยุราของช่อง 3 และชิงนางทางช่อง 7 รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมตามมาอินเทรนด์กันได้นะจ๊ะ
หลังจากเดินชมไร่แบบเต็มอิ่มแล้ว ใครที่ต้องการเพิ่มพลัง แนะนำว่าไม่ต้องไปมองหาที่ไหนไกล เพราะไร่ชาฉุยฟงนี้มีเมนูเด็ดพร้อมเสิร์ฟให้ได้อิ่มหนำกันอย่างเต็มที่ ณ ฉุยฟง ทีเฮ้าส์ มีทั้งเซ็ตชาสุขภาพส่งตรงจากไร่ เค้กสารพัดชา ทั้งชาเขียว ชาแดง และฮันนี่โทสต์ไอศกรีมชาเขียว หรือจะเป็นเมนูอาหารคาวอย่างบะหมี่หมูยูนนานและยำยอดชาเขียวทูน่า เรียกได้ว่าอร่อยแล้วยังได้สุขภาพที่ดีกลับไปด้วย เติมพลังกันเสร็จเรียบร้อยฉันไม่พลาดแวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน ที่นี่เขามีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งใบชา ผงชา เซ็ตถ้วยชา หรือเสื้อยืดลายสวย ก็ล้วนแต่มีแพ็กเกจจิ้งที่สวยงาม ควรค่าแก่การละลายเงินในกระเป๋าสตางค์จริง ๆ (ฮา)
CONTACT
ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย
0 5377 1563
www.chouifongtea.com
Choui Fong Tea
ดอยหัวแม่คำ
แม้ว่าเส้นทางสู่ ดอยหัวแม่คำ นั้นจะยาวไกลหลับได้หลายตื่น แต่ฉันเชื่อว่าผู้รักธรรมชาติทั้งหลายอาจจะตาเปล่งประกายเพลิดเพลินกับวิวทิวเขาสีเขียว มีเบื้องหน้าเป็นท้องทุ่งนาสีเหลืองทอง บางช่วงก็พบเจอกับหมู่บ้านชาวเขา มีเด็กน้อยเดินกันตามถนนคอยส่งเสียงทักทายนักท่องเที่ยว เรียกรอยยิ้มได้ไม่น้อย ยิ่งได้เปิดกระจกรถรับลมเย็น ๆ ตลอดทางแล้ว
ฟินสุด ๆ
“ดอกบัวตองนั้นบานอยู่บนยอดดอย…” ทันทีที่มาถึง ดอยหัวแม่คำ เพลงล่องแม่ปิงก็ดังขึ้นในหัว แม้จะอยู่จังหวัดเชียงรายก็ตาม (ฮา) สีเหลืองของดอกบัวตองที่บานสะพรั่งนับพัน ๆ ดอกทั่วทั้งดอยนั้นงดงามเกินจะบรรยาย ประจวบเหมาะกับแสงแดดที่สาดส่องยิ่งขับให้สีเหลืองนั้นสดใสกว่าที่เป็น สำหรับใครที่อยากชื่นชมดอกบัวตองเคล้าคลอสายหมอกยามเช้าขอแนะนำให้จองที่พักบนวนอุทยานดอยหัวแม่คำหรือที่ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงหัวดอยแม่คำ ซึ่งนอกจากจุดชมดอกบัวตองที่ดอยหัวแม่คำแล้ว ก็ยังมีทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้ชมกันอีกด้วย สะดวกที่ไหนก็เลือกกันได้เลย
INFO: ดอกบัวตองจะบานสะพรั่งทั่วทั้งดอยในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน และโรยลงในช่วงปลายเดือนเดียวกัน หากต้องการชมการแสดงของชนเผ่า ซึ่งจะเป็นการจัดงานประจำปีกลางเดือนพฤศจิกายน สามารถติดต่อสอบถามได้จากศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงหัวดอยแม่คำ
CONTACT
หมู่ที่ 1 บ้านหัวแม่คำ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
0 5491 8101
www.dnp.go.th
ดอยหลวงเชียงดาว
ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ด้วยความสูง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล จะมีใครบ้างเล่าไม่อยากจะพิชิตยอดดอยที่มีชื่อว่า ดอยหลวงเชียงดาว
แสงอาทิตย์สีส้มทองที่กำลังย้อมผืนฟ้าให้กลายเป็นสีเดียวกัน สายลมเย็นที่พาความหนาวเหน็บมาสู่ร่างกาย นี่คงเป็นสิ่งที่นักเดินทางทุกคนล้วนแล้วอยากมาสัมผัสสักครั้ง ความอัศจรรย์ของดอยแห่งนี้ นอกจากวิวที่งดงามแล้ว อยู่ตรงที่พันธุ์ไม้ที่มีชื่อว่า กิ่งอัลไพน์ ซึ่งพบได้ที่เดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมี เอื้องเทียนนกแก้ว ซึ่งสามารถพบได้ที่ดอยหลวงเชียงดาวเพียงแห่งเดียวในโลก รูปร่างหน้าตาคล้ายนกแก้วกำลังโผบิน สีชมพูอมม่วง ซึ่งจะออกดอกในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม เท่านั้น
CONTACT
ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
0 5381 8348
www.dnp.go.th
โมโกจู
เข้าสู่ช่วงปลายปี อีกหนึ่งเส้นทางสัมผัสลมหนาวชมความงดงามของธรรมชาติที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้น ยอดเขาโมโกจู จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งมีเสียงร่ำลือว่า เป็นที่สุดของที่สุดสำหรับการเดินป่า ด้วยระยะทางแสนโหดถึง 64 กิโลเมตร แต่ในปัจจุบันทางอุทยานแห่งชาติแม่วงก์เขาปรับเส้นทางเดินใหม่ โดยจะมีรถอีแต๊กพาเข้าไปส่งถึงแคมป์แม่กระสาซึ่งสามารถช่วยย่นระยะทางไปกลับให้เหลือครึ่งหนึ่ง เพียง 32 กิโลเมตรเท่านั้น
โดยบริเวณ แคมป์แม่กระสา เป็นจุดที่มีลำธารไหลผ่าน จึงใช้เป็นจุดตั้งแคมป์เมื่อครั้งยังไม่มีรถเข้าถึง แต่ในตอนนี้แคมป์แห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่สำหรับรับประทานอาหารเติมพลังก่อนถึงเวลาจริงที่เราต้องเดินเท้าเข้าป่า ซึ่งตลอดระยะทางจากแคมป์แรกจนถึงแคมป์ที่ 2 นามว่า แคมป์แม่เรวา นั้น มีระยะทางเดิน 4 กิโลเมตร ช่วงนี้ถือว่าเดินกันแบบชิลล์ ๆ เป็นทางราบไว้ให้ได้ยืดเส้นยืดสายก่อนเจอของจริงในวันพรุ่งนี้ เราใช้เวลาเดินกัน 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็มาถึงแคมป์แม่เรวา บริเวณนี้เป็นลานกว้าง มีต้นไผ่ปกคลุมให้ร่มเงา มีลำธารน้ำใสและเย็นมากกกก! ไว้ให้ได้อาบน้ำ แต่เดี๋ยวก่อน ภารกิจวันแรกยังไม่จบ เพราะเราต้องเดินต่อไปอีก 4 กิโลเมตรเพื่อไปชื่นชมกับความสวยงามของ น้ำตกแม่รีวา ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีความสูงถึง 5 ชั้น!
เช้าวันที่ 2 เราต้องเดินขึ้นเนินเขาน้อยใหญ่กันประมาณ 6-7 ลูก ด้วยระยะทาง 12 กิโลเมตร ประเภทป่าที่เจอจึงไล่ขึ้นไปตามระดับความสูง ตั้งแต่ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ไปจนถึงป่าดิบเขา มองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้ใบหญ้าหนาทึบ บริเวณตีนเนินบางเนินจะมีลำธารเป็นระยะ ๆ ให้เราได้เติมน้ำจากธรรมชาติเพื่อดับกระหาย มีเสียงนก เสียงใบไผ่ให้ได้ยินอยู่ตลอดทาง 8 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น คือเวลาที่เราใช้เดินจากแคมป์แม่เรวไปถึง แคมป์ตีนดอย
ถ้าใครอยากขึ้นไปสัมผัสยอดเขาโมโกจู ก็ต้องกัดฟันเดินขึ้นไปอีกประมาณ 15 นาที ภาพทิวทัศน์ด้านบนสวยงามราวสวรรค์ ยอดเขาที่สลับซ้อนไกลสุดสายตา มีหินเรือใบสัญลักษณ์สำคัญของยอดเขาโมโกจูตั้งตระหง่านอย่างสวยงาม แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องลงมาช่วยเพิ่มมิติให้เย็นวันนี้เป็นช่วงปลายปีน่าจดจำ
เช้าวันสุดท้าย เราขึ้นไปโบกมืออำลาโมโกจู แสงสีส้มอมชมพูทอแสงขึ้นที่ปลายขอบฟ้า มีหมอกสีขาวบาง ๆ ลอยอยู่เหนือทิวเขา เช้าวันนั้นพวกเราดูเหมือนจะลืมความเมื่อยล้าร่างกายไปในช่วงเวลาหนึ่ง บ้างหยิบกล้องถ่ายรูปมาถ่าย บ้างก็โพสท่าบนก้อนหินริมยอดเขา แต่เชื่อว่าทุกคนไม่ลืมที่จะดื่มด่ำช่วงเวลาแสนพิเศษนี้ไว้เพื่อให้อยู่ในความทรงจำและคุ้มค่ากับความหฤโหดของเส้นทาง 32 กิโลเมตร และจนถึงวันนี้ ทุกครั้งที่คิดถึงทริปนี้ ความสุขก็ยังคงชัดเจนอยู่เสมอ
CONTACT
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร
090 457 9291 (สำนักงานอุทยาน)
www.dnp.go.th
ดอยช้างมูบ
ยิ่งสูง ยิ่งหนาว ยิ่งสูงยิ่งสวย เป็นเรื่องจริงที่ธรรมชาติสร้างให้แก่เทือกเขาสูงต่าง ๆ เช่นเดียวกับ ดอยช้างมูบ ดอยที่มีความสูงที่สุดของเทือกเขาแนวนอน ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,520 เมตร กับทิวทัศน์ภูเขาเขียวขจีที่ทอดไกลสุดลูกหูลูกตาไปถึงประเทศพม่า
ดอยช้างมูบเป็นส่วนหนึ่งในเขตพัฒนาดอยตุง ซึ่งในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นลักษณะของเขาหัวโล้น ทั้งยังเป็นแหล่งปลูกฝิ่นของชาวบ้านและเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศแต่ด้วยน้ำพระทัยของสมเด็จย่า ที่ทรงมีพระราชประสงค์ฟื้นฟูผืนป่าแถบนี้ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง นอกจากการเป็นจุดชมวิวที่ห้ามพลาดของการมาเยือนดอยตุงแล้ว พื้นที่แห่งนี้ยังเป็นสวนรุกขชาติ ที่รวบรวมพันธุ์ไม้พื้นเมืองและพันธุ์ไม้ป่าหายาก รวมไปถึงกุหลาบพันธุ์ปีจากหลากหลายประเทศ รวมถึงไม้เมืองหนาวอย่าง พญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยดอกเสี้ยวขาว กล้วยไม้ดิน กล้วยไม้พื้นเมือง รองเท้านารี สนภูเขา ฯลฯ
CONTACT
ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย
0 5376 7015-7 (โครงการพัฒนาดอยตุง)
www.doitung.com
ดอยภูคา
วิวเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มีเมฆปกคลุมตลอดฤดูฝนและฤดูหนาว คือทิวทัศน์ยอดดอยภูคาอันเป็นเอกลักษณ์ที่คุ้นตาของเหล่าบรรดานักท่องไพร ด้วยผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว ลำน้ำว้า ที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวจังหวัดน่านเสมอมา
ไฮไลต์สำคัญของของดอยภูคาอยู่ที่การได้มาชม ต้นชมพูภูคา พันธุ์ไม้ที่ได้ชื่อว่าหายากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง ซึ่งแต่ก่อนเคยพบในมณฑลยูนนานของจีน ก่อนจะสูญพันธุ์ไป แต่แล้วก็มีการค้นพบอีกครั้งบนดอยแห่งนี้ ว่ากันว่ามีหลงเหลืออยู่ในโลกเพียงแห่งเดียวเท่านั้น! โดยในรอบหนึ่งปี ชมพูภูคาจะออกดอกสีชมพูเป็นช่อสวย สดใสเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์
หากอยากสัมผัสความมหัศจรรย์ ชมดอกชมพูภูคาบานสะพรั่งให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้งแล้วละก็คำนวณช่วงเวลาในการเดินทางกันให้ดีนะจ๊ะ
นอกจากความสวยงามของดอกชมพูภูคาแล้ว บนดอยภูคายังมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามอีกหลายแห่งให้ได้เลือกชม ไม่ว่าจะเป็นป่าปาล์มดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ น้ำตกภูฟ้า น้ำตกผาขี้นก น้ำตกแม่จริม น้ำตกต้นตอง น้ำตกตาดหลวง น้ำตกห้วยโกร๋น อีกทั้งยังมีถ้ำขนาดใหญ่ ทั้งถ้ำผาฆ้อง ถ้ำหลวง ถ้ำผาแดง ถ้ำผาแง่ม ถ้ำผาเก้า ธารน้ำลอด และอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งล้วนแล้วแต่งดงาม ควรค่าแก่การเดินทางมาเยี่ยมชม
CONTACT
ต.ภูคา อ.ปัว จ.น่าน
0 5470 1000
www.dnp.go.th
สำหรับฉันแล้วการเดินทางในครั้งนี้นับว่าเป็นรางวัลชิ้นใหญ่ของชีวิตเลยก็ว่าได้ ตื่นเต้นกับภาพพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า นั่งนิ่ง ๆ มองดวงดาวในยามค่ำคืน มีเวลาอยู่กับตัวเองมากกว่ามองหน้าจอโทรศัพท์ พบเจอกับวิถีชีวิตของผู้คนที่อยู่กันอย่างสมถะบนดอยอันห่างไกล ได้เจอกับมิตรภาพใหม่ ๆ ระหว่าง การเดินทาง ซึ่งทุกความประทับใจเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่เริ่มออกเดินทาง แล้วคุณล่ะพร้อมเริ่มต้นบันทึกการเดินทางครั้งใหม่แล้วหรือยัง?