เปิดใจด.ต.วิเวก 'จบโท-ผิวขาวไร้ขนหน้าแข้ง'แต่งหญิงล่อโจร ลูกสาวกรี๊ด ...
เปิด ใจ 'ด.ต.วิเวก’ผู้รับบทบาทสำคัญในการจับโจรที่นนทบุรี ลงทุนซื้อวิกผม ส่วนเสื้อผ้าแอบหยิบของภรรยา ลิปสติกขอหลานสาวมาแต่งเป็นหญิง บอกที่ได้รับเลือกเพราะผิวขาว ไม่มีขนหน้าแข้ง ขนาดลูกสาวเห็นรูปยังถามว่า นั่นใช่พ่อมั๊ยแม่...
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 59 ด.ต.วิเวก กมลวิบูลย์ ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ที่ปลอมตัวเป็นผู้หญิงนั่งรอรถที่ป้ายรถเมล์เพื่อจับคนร้าย (ตำรวจปลอมตัวเป็นหญิง นั่งรอที่ป้ายรถเมล์ ล่อ 2 โจ๋ให้ออกมาปล้น) ได้กล่าวเปิดใจกับผู้สื่อข่าวกับภารกิจ ‘ปลอมเป็นหญิง’ ว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ตามป้ายรถประจำทางบนถนนรัตนาธิเบศร์ หลายครั้ง พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล พ.ต.ท.เมษนนท์ นาขวัญ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ศุภชัย ศรีศักดิ์ สว.สส. จึงได้ประชุมเจ้าหน้าที่สืบสวนเพื่อวางแนวทางในการหาวิธีจับกุมตัวคนร้ายที่ ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว
เมื่อดูแผนประทุษร้ายที่คนร้ายก่อเหตุ มักจะทำกับเหยื่อที่เป็นผู้หญิงส่วนมาก จึงต้องหาเหยื่อล่อ โดยต้องใช้ตำรวจสืบสวนปลอมตัวเป็นหญิง ตนจึงถูกเลือกให้รับหน้าที่นี้ เนื่องจากตำรวจสืบสวนทุกคนจะดำ มีตนเพียงคนเดียวที่ผิวขาว ไม่มีขนหน้าแข้ง เพราะเวลาใส่กระโปรงถ้ามีขนหน้าแข้งคนร้ายรู้ทันที่เลยว่าไม่เป็นตำรวจ ก็กะเทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ชุดและอุปกรณ์การแต่งกายเอามาจากไหน ด.ต.วิเวก ตอบอย่างอายๆ ว่า ชุดที่ใส่กระเป๋าสะพายขโมยของภรรยามา ลิปสติกขอหลานสาว ส่วนวิกผมซื้อมา พอได้ชุดก็ลงมือปลอมตัวเป็นผู้หญิง เข้าจุดป้ายรถประจำทางบนถนนรัตนาธิเบศร์ โดยเข้าจุดช่วงเวลา 04.00-05.30 น. และสลับเปลี่ยนจุดทุกวัน บางวันขณะยืนอยู่มีคนเก็บของเก่าเข้ามาหา คิดว่าตนเป็นผู้หญิงอย่างว่า พอไอออกไปเป็นเสียงผู้ชาย คนเก็บของเก่ารีบปั่นหนีไปเลย บางทียังนึกขำเลย ตนได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำหน้าที่นี้ทุกวัน จนสามารถจับคนร้ายได้ ตนไม่เคยท้อที่จะรอจับคนร้าย
"คิดอย่างเดียวว่าจะต้องจับให้ได้ แล้วก็แน่ใจว่าคนร้ายต้องกลับมาก่อเหตุอีกอย่างแน่นอน โดยใช้เวลาเข้าจุดอยู่ 4-5 วัน จนสามารถจับคนร้ายได้ ซึ่งวันที่คนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุนั้น เป็นจังหวะที่รถแท็กซี่จอดให้ผู้โดยสารลงพอดี และผู้โดยสารก็เป็นผู้ชายด้วย คนร้ายเลยชะลอรถจักรยานยนต์ เมื่อเห็นว่าก่อเหตุไม่ได้จึงรีบขับรถหนีไป เราก็เห็นตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าต้องใช่คนร้ายแน่เพราะลักษณะตรงตามที่ผู้เสีย หายรายหนึ่งได้ให้ข้อมูลไว้จึงได้วิทยุสกัดจับแต่ตำรวจชุดที่ขับไล่ติดตาม เกิดพลัดหลงกับคนร้าย แต่ก็เห็นป้ายทะเบียนรถของคนร้าย ก่อนนำมาตรวจสอบและติดตามไปจับกุมตัวได้ในที่สุด"
ด.ต.วิเวก กล่าวอีกว่า หลังเป็นข่าวออกไปภรรยากับลูกตกใจ และถามว่า นั่นใช่พ่อมั๊ยแม่ จนลูกสาวโทรมาถาม ตนก็บอกไปว่าพ่อเอง ทั้งภรรยาและลูกต่างพากันหัวเราะชอบใจ ลูกสาวตนบอกว่าภูมิใจที่พ่อทำเพื่อสังคม ทำเพื่อประชาชน ตนก็บอกไปว่าเป็นตำรวจต้องทำได้ทุกอย่าง และที่สำคัญต้องจับคนร้ายให้ได้ ไม่อย่างนั้นประชาชนที่เขาออกไปทำงานตอนเช้ามืดจะเกิดอันตรายแค่ไหน ตนก็กลัวจะมาเกิดกับครอบครัวเรา ตนก็มีลูกสาวเหมือนกัน
ด้าน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุแล้วได้ร่วมกันวางแผนทั้งงานสืบสวนและสายตรวจ เพื่อหาวิธีและแนวทางในการจับกุมตัวคนร้าย จนเกิดแนวคิดที่จะให้ตำรวจสืบสวนปลอมตัวเป็นผู้หญิงเป็นเหยื่อล่อ ซึ่งตอนแรกจะให้ตำรวจหญิงจริงๆ เป็นเหยื่อล่อ แต่เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจให้ ด.ต.วิเวก ปลอมตัว เนื่องจากเป็นคนผิวขาวที่สุดในบรรดาตำรวจสืบสวน
อย่างไรก็ตาม ตนต้องชมเชยตำรวจที่ปฏิบัติงานในครั้งนี้ เพราะทุกคนไม่เคยท้อในการทำงานเข้าจุด เฝ้าคนร้ายหลายวันจนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ตนก็ประสานไปยังร้านสะดวกซื้อ นำชุดมาให้ตำรวจเราใส่ปลอมตัวเป็นพนักงาน แล้วก็สามารถจับคนร้ายได้ ส่วนที่เกรงว่าคนร้ายจะรู้ว่าตำรวจใช้แผนนี้จับกุม ตนคิดว่าอย่างน้อยโจรมันก็ไม่กล้าที่จะลงมือก่อเหตุ เพราะกลัวว่าจะเป็นตำรวจปลอมตัวมาหรือเปล่า ก็ทำให้คนร้ายไม่กล้าก่อเหตุ ถือเป็นการป้องปรามไปในตัว.
สำหรับ ด.ต.วิเวก กมลวิบูลย์ เรียนจบจาก ตำรวจภูธรภาค 1 รุ่น 4 จบปริญญาตรี คณะรัฐประศาสนศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจบปริญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยทองสุข