แม่ร่ำไห้ใจแทบขาด!! ลูกชายวัย 6 ขวบ ถูกกำแพงทับดับอนาถ เผย 4 เดือนแล้ว เรื่องกลับเงียบ!! ไร้การเหลียวแล แม่พูดทั้งน้ำตาพร้อมพูดออกมาแบบนี้!!
นางมีน๊ะ เทศอาเส็น อายุ 40 ปี ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม หลังลูกชายวัย 6 ขวบ ถูกกำแพงทับจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่ด้านหลังกำแพงตลาดในชุมชน เขตเทศบาลตำบลคลองขุด อ.เมือง จ.สตูล แต่ผ่านมาร่วม 4 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี และไร้การเหลียวแลให้ความช่วยเหลือ ทั้งด้านจิตใจและเยียวยาครอบครัว แม้ก่อนหน้านี้ได้ร้องขอให้หลายฝ่ายเข้าช่วยเหลือแล้ว
นางมีน๊ะ กล่าวว่า รู้สึกคิดถึงทุกครั้ง ที่เห็นของใช้ส่วนตัวลูกชาย เสื้อตัวเก่งที่ลูกชอบใส่และหวงแหน เป็นเสื้อเพียงตัวเดียวที่เก็บไว้ยามนึกถึงลูก และเหรียญรางวัลที่ลูกได้จากการแข่งขันกีฬาในโรงเรียนเป็นที่ภาคภูมิใจ และเป็นความหวังของแม่ยามแก่เฒ่า ต้องมาจบชีวิตกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ยิ่งสร้างความเสียใจ เศร้าใจไปอีกเมื่อการเสียชีวิตในครั้งนี้ของลูกชายตน ยังไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้เกี่ยวข้อง ผ่านมานานร่วม 4 เดือน ไม่มีการเอาโทษคนผิด ไม่มีการเหลียวแลครอบครัวของตนที่อยู่เพียงลำพัง หาเช้ากินค่ำ วันนี้ไม่มีงานทำที่เป็นชิ้นเป็นอัน ต้องรับจ้างไปวันๆ เกรงว่าจะมีการเรียกให้ปากคำเพิ่มเติม จะมีปัญหากับงาน บ้านต้องเช่า มีแต่รายจ่าย ไม่มีใครสนใจและไร้การเหลียวแล
นางมีน๊ะ กล่าวต่อว่า เรื่องคดีดูเหมือนจะมีความหวังเมื่อมีการเรียกพูดคุยหารือ กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งตลาดซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่กำแพง เทศบาลตำบลคลองขุด เจ้าของโครงการก่อสร้างทางระบายน้ำ และผู้รับเหมาต่อจากเทศบาลตำบลคลองขุด หลังทนายได้แจ้งขอให้มีการเยียวยาครอบครัวตน 5 แสนบาท โดยเบื้องต้นทางตลาดเจ้าของพื้นที่กำแพง ยอมจ่าย 1 แสนบาท พร้อมกับผู้รับเหมาอีก 1 แสนบาท ส่วนทางเทศบาลตำบลคลองขุด ไม่ตอบในส่วนนี้ หลังการพูดคุยจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เงียบหาย ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้เรื่องคดีความการเสียชีวิตของลูกคนจนถึงไร้ค่า ไร้การเหลียวแลถึงเพียงนี้ และไม่รู้จะไปเพิ่งใคร ยิ่งทำให้ตนเศร้าใจว่าลูกคนจน ไม่มีทางได้รับความยุติธรรมกับคนอื่นเลยหรืออย่างไร
“เมื่อมีการประสานไปยังพ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์ นาวัง ผกก.สภ.เมืองสตูล ซึ่งลาราชการเพื่อบวชถวายในหลวง ได้กล่าวว่า คดีนี้ได้มีการกำชับและเน้นย้ำตลอด ให้รีบในการดำเนินคดี และสรุปสำนวน เนื่องจากแม่ที่สูญเสียลูก นอกจากจะได้รับความกระทบเทือนทางจิตใจแล้ว ยังประสบปัญหาครอบครัวไร้ที่พึ่ง ขณะที่นักข่าวได้พยายามติดต่อเพื่อขอทราบความคืบหน้าของคดี จากร.ต.อ.วิรัตน์ สุขธร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล ซึ่งเป็นเจ้าของคดี ก็ไม่รับสาย แต่เบื้องต้นได้มีการติดต่อจากตำรวจเจ้าของคดีแล้ว นัดให้มีการพูดคุยอีกครั้งที่ สนง.เทศบาลตำบลคลองขุด ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ซึ่งไม่ทราบเช่นกันว่า เป็นการเจรจาหารือในส่วนใด” นางมีน๊ะ กล่าว
ด้านนายโชติ ชินอรรถพร นายกเทศมนตรีตำบลคลองขุด กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังเกิดเหตุให้ฝ่ายสวัสดิการสังคม ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือ กลับพบว่าแม่ของเด็กเป็นบุคคลนอกพื้นที่ความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลคลองขุด จึงได้ประสานให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าเยียวยาให้ความช่วยเหลือให้แล้ว ส่วนทางด้านคดีได้มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล ดำเนินคดีว่าไปตามกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้นยอมรับว่า มีการว่างจ้างให้ผู้รับเหมาก่อสร้างคูระบายน้ำจริง และมีการส่งมอบงานเรียบร้อยแล้ว มานานร่วม เดือนเศษ ก่อนเกิดเหตุ และทราบเบื้องต้นว่าจะมีการช่วยเหลือเยียวยาตามหลักมนุษยธรรมจาก ผู้เช่าตลาดและผู้รับเหมางานก่อสร้าง รายละ 1 แสนบาท ส่วนช่วยเหลือหรือไม่นั้นยังไม่ทราบแต่อย่างใด ส่วนกำแพงนั้น ทำไมไม่มีการทุบหรือทำลาย ระหว่างมีการก่อสร้างนั้น ต้องเป็นดุลพินิจของผู้รับเหมาก่อสร้าง และทางตลาด ที่จะต้องเข้ามาดูแลพื้นที่ของตน หลังมีการรับเหมางานไปแล้ว ส่วนกำแพงรอบตลาดนั้น กลับตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ไม่มีมาตรฐานหลังมีการต่อเติม และไม่ได้ขออนุญาตกับทางเทศบาลแต่อย่างใด เนื่องจากมีการก่อสร้างต่อเติมมาช้านานแล้ว ส่วนวันที่ 8 ธ.ค.2559 นี้ ยังไม่มีการประสานมาของพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการพูดคุยคดีนี้แต่อย่างใด