เปิดโปง!! ธรรมกาย ปรากฏการณ์”ทุนนิยม”ในศาสนา
ปัจจัยอะไรทำให้กรณีของ “วัดพระธรรมกาย” กลายเป็น “ปรากฏการณ์” ในทางสังคม
1 อาจเป็นเพราะ “คดีความ”
คดีความที่ปรากฏผ่านกระบวนการของ “ดีเอสไอ”สะท้อนการเข้าไปเกี่ยวพันกับ
1.1 รับของโจร 1.2 ฟอกเงิน
ขณะเดียวกัน คดีความที่ปรากฏผ่านกระบวนการของ”ตำรวจ”สะท้อนการเข้าไปเกี่ยวพันกับ
1.3 การรุกป่าที่จังหวัดเลย 1.4 การรุกป่าที่จังหวัดนครราชสีมา
2 คดีความเหล่านี้สะท้อนถึง “วัตรปฏิบัติ”
เป็นวัตรปฏิบัติอันเกี่ยวพันกับ “เงิน” เป็นวัตรปฏิบัติกันเกี่ยวกับ “ที่ดิน” ในพื้นที่ป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ
ล้วนเป็นเรื่องทาง”โลก”
วัตรปฏิบัติของ”วัดพระธรรมกาย”จึงขัดแย้งกับหลักการโดยพื้นฐานของพระพุทธศาสนา
มี”เงิน”เข้ามาเกี่ยวข้อง มี”ทีดิ่น”เข้ามาเกี่ยวข้อง
คำถามก็คือ แล้วอารามหรือวัดในทางพระพุทธศาสนาไม่มีความ เกี่ยวข้องกับเรื่องของเงิน เรื่องของที่ดินเลยหรือ
เป็นไปได้ยาก
เพียงแต่ว่าจะเกี่ยวข้องอย่างไรเท่านั้น
นี่เป็นปัญหาในเรื่องของการบริจาค นี่เป็นปัญหาในเรื่องของผลประโยชน์
ไม่ว่าวัดใน”ส่วนกลาง” ไม่ว่าวัดใน”ภูมิภาค”ล้วนมี
ประเด็นจึงอยู่ที่ว่า มีความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาลเพียงใดในเรื่องของการบริจาค
หรือแม้กระทั่งการเช่า “ที่ดิน” เพื่อการค้า
ปัจจัยแห่ง “ทุนนิยม” ได้รุกคืบและมายืนอยู่กับ”วัด”และข้าง”วัด”โดยถ้วนทั่ว
ท้าทายอย่างยิ่งต่อ “แนวทาง”และ”ความเชื่อ”ดั้งเดิม
กรณีของ”วัดพระธรรมกาย” คือ ตัวอย่าง 1 ของการพยายามปรับตัวของพระพุทธศาสนาในยุค “ทุนนิยม”
เหมือนกับการปรับตัวของ “คริสตศาสนา”
เพียงแต่กล่าวสำหรับ “คริสตศาสนา” มีพัฒนาการมายาวนานมามากกว่า
มีบทเรียน ประสบการณ์ ความจัดเจนมากกว่า
ขณะที่กล่าวสำหรับ “วัดพระธรรมกาย” อาจเป็นตัวอย่าง 1 ซึ่งแนวทางและความเชื่อ “ดั้งเดิม” ไม่สามารถรับและเห็นด้วยอย่างสนิทใจ
จึงถูกมองว่าเป็น “พุทธพาณิชย์”
ทั้งๆที่จริงๆแล้วคือ “ความพยายาม”ที่จะประสานและปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย
ยุคสมัยแห่ง”ทุนนิยม” ที่”เงิน”เป็นปัจจัยสำคัญ
“ทุนนิยม” ได้เบียดแทรกและส่งผลสะเทือนต่อ”ความเชื่อ”