ปวงชนชาวไทยน้อมรำลึก “รัชกาลที่ 9” “บรมกษัตริยาธิราช” “วังสระปทุม” ที่ประทับแรกในไทย
เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ร่วมกับศูนย์การค้าสยามพารากอน จัดแถลงข่าวการจัดนิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยจะจัดขึ้นวันที่ 5-18 ธันวาคม ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
คุณชวลี อมาตยกุล กรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า กล่าวว่า สืบเนื่องจากวังสระปทุมจะจัดให้ประชาชนทั่วไปได้ชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำเรื่องราวที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์มาจัดแสดงนิทรรศการบรมกษัตริยาธิราชขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบเรื่องราวอันทรงคุณค่าของประวัติศาสตร์ไทยได้อย่างทั่วถึง ทั้งยังเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์ รวมถึงพระราชประวัติตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และเมื่อครั้งประทับอยู่ที่พระตำหนักใหม่ วังสระปทุม
“วังสระปทุมเป็นที่ประทับแห่งแรกในประเทศไทย เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ พร้อมสมเด็จพระบรมราชชนก และสมเด็จพระบรมราชชนนี จากสหรัฐอเมริกานิวัตประเทศไทย ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ระหว่างปี พ.ศ.2471-2476 เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในพระชนม์ชีพของพระองค์ ดังที่รับสั่งไว้ว่าทรงรู้จักประเทศไทยได้เพราะสมเด็จย่าของพระองค์”
“สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า เมื่อทรงพระเยาว์ทรงจำอะไรได้บ้าง มีรับสั่งว่าของเล่นก็เอาเศษไม้มาต่อกันเป็นรถลาก จะเห็นได้ว่าทรงมีพระอุปนิสัยที่ไม่สุรุ่ยสุร่าย สำหรับมุมโปรดของพระองค์ ทรงโปรดทุกมุม เพราะวังสระปทุมคือบ้านที่มีความรักความอบอุ่น”
ภายในนิทรรศการจะแบ่งออกเป็น 4 ภาค ได้แก่ 1.ปฐมนิวาสราชสถิต ภาคแห่งการแสดงพระราชประวัติ พระราชจริยาวัตร เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องด้วย วังสระปทุมซึ่งเป็นที่ประทับแห่งแรกในประเทศไทย
2.พิพิธราชกรณีย์ เป็นภาคที่ประกอบด้วยเรื่องการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการที่ยังประโยชน์แก่ประเทศและปวงชนชาวไทยตลอดจนมนุษยชาติ
3.ราชสดุดีสรรพสกล ภาคแห่งสาระเกี่ยวกับการถวายราชสดุดี และ
4.มหาภูมิพลปรมานุสาสน์ ภาคแห่งการประมวลพระราชดำรัส และพระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่พสกนิกร
คุณชวลีกล่าวว่า มูลนิธิได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานสำเนาพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยของพระมหากษัตริย์จากประเทศต่างๆ และสารแสดงความเสียใจจากผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาจัดแสดงในครั้งนี้ด้วย ซึ่งไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน อาทิ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน, สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เป็นต้น
“นิทรรศการได้จำลองให้เห็นความสุขในวังสระปทุม จำลองของใช้ส่วนพระองค์ เช่น ภาพโฮโลแกรม 3 มิติของรถเข็นเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ รวมถึงรางวัลที่ทรงได้รับการถวายราชสดุดีพระเกียรติคุณพระเกียรติยศ ให้ได้ชมราวกับภาพเสมือนจริง นอกจากนี้มูลนิธิจะแจกโปสการ์ดพระบรมฉายาลักษณ์ในวันเสด็จขึ้นครองราชย์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยด้านหลังได้น้อมนำพระบรมราโชวาท เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2538 ซึ่งพระองค์รับสั่งถึงสมเด็จพระบรมราชชนนี ที่รับสั่งว่าทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย เมื่อแม่ตายแล้วอย่าร้องไห้ แต่ขอให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยจะแจกให้ผู้มาชมนิทรรศการทุกวัน วันละ 9,999 ภาพ นอกจากนี้จะแจกแผ่นพับวันละ 1,000 ฉบับด้วย” คุณชวลีกล่าว
สำหรับความประทับใจที่มีต่อในหลวง รัชกาลที่ 9 คุณชวลีกล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 40 กว่าปีที่ได้ถวายงานมา ไม่เคยเห็นพระองค์ทรงทำอะไรเพื่อพระองค์เองเลย แม้ประชวรก็ทรงห่วง แม้เสด็จฯออกไปไม่ได้ ก็ยังโปรดเกล้าฯ ให้พระราชโอรส พระราชธิดาปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ แทน แต่ละพระองค์ทรงแบ่งเบาพระราชภาระทูลกระหม่อมพ่อ พระองค์ทรงไม่ละทิ้งประชาชนของพระองค์เลย ราชสกุลมหิดลทุกพระองค์ทรงงานเพื่อประชาราษฎร์ทั้งสิ้น”
คุณชวลีกล่าวต่อว่า หลังจากจบงานนิทรรศการบรมกษัตริยาธิราชแล้ว หากประชาชนผู้สนใจต้องการซึมซับกับเรื่องราวและสถานที่จริงยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าได้ระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2559 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2560 ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ สำหรับประชาชนทั่วไปเสียค่าเข้าชมคนละ 150 บาท และนักเรียน/นักศึกษาเสียค่าเข้าชมคนละ 50 บาท ติดต่อเข้าชมได้ที่ โทร 0-2252-1965-7 หรือ www.queensavang.org ผู้ที่มาเข้าชมขอให้แต่งกายในชุดสุภาพไว้ทุกข์
ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในนิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” วันที่ 5-18 ธันวาคม ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน