แม่ชีแก้ว ศิษย์หญิงผู้เดียวที่หลวงปู่มั่นสั่งห้ามไม่ให้ภาวนา แต่สุดท้ายก็บรรลุธรรม ชมภาพอัศจรรย์อัฐิธาตุแม่ชีแก้ว !??
จากที่ได้เล่าเรื่องราวของแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม กับวินาทีที่คุณแม่บุญเรือนท่านบรรลุธรรมแล้ว นอกจากนั้น เมืองไทยเรายังมีอุบาสิกาหญิง “แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ” ศิษย์หญิงสายพระป่า มาช่วยยืนยันว่า “เกิดเป็นผู้หญิง ก็บรรลุธรรมได้” วันนี้เลยได้นำประวัติ พร้อมภาพอัฐิธาตุของแม่ชีแก้ว
แม่ชีแก้วท่านนี้ เคยถูกหลวงปู่มั่นห้ามไม่ให้ภาวนามาแล้ว และมีการพยากรณ์ล่วงหน้าด้วยว่าจะมีผู้มาสอนภายภาคหน้า เรื่องราวของแม่ชีแก้ว เป็นดังนี้
(ภาพแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ)
ย้อนไปเมื่อ 89 ปีที่แล้ว (พศ.2460) ณ บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร หญิงสาวผู้หนึ่งได้ถางป่าเพื่อจับจองที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมหลวงปู่มั่นได้ธุดงค์ผ่านมาพร้อมคณะพระ ท่านได้เห็นที่บริเวณนั้นเหมาะที่จำทำเป็นที่พักสงฆ์ จึงได้ขอที่บริเวณนั้น หญิงสาวนั้นมีปิติยินดี ได้ถวายที่แด่ท่าน หลวงปู่ได้ให้พรว่า "ต่อไป เจ้าจะไม่มีวันอดอยาก" วัดแห่งนี้ชาวบ้านเรียกว่า วัดหนองน่อง (น่องคือเถาวัลย์ชนิดหนึ่ง ใช้เป็นยาเบื่อยาสลบ)
หลวงปู่มั่นและคณะพระได้อยู่ปฏิบัติธรรม ณ วัดแห่งนั้น สั่งสอนชาวบ้านแถบนั้น ให้ละจากการนับถือผีมานับถือพระพุทธศาสนา ยังให้เกิดศรัทธา เข้าใจศาสนามากขึ้น หนึ่งในนั้นก็มีเด็กสาวรุ่น อายุ 16 ผู้เป็นผู้ถวายที่ คือคุณแม่ชีแก้ว ในปัจจุบัน
ก่อนหลวงปู่มั่นกับคณะพระจะธุดงค์จากไป หลวงปู่มั่นได้ปรารภกับคุณแม่ชีแก้วว่า "หากเจ้าเป็นผู้ชาย เราจะให้บวชเป็นเณรและให้ติดตามไปด้วย แต่นี่เป็นหญิง ไปด้วยก็ลำบากต่อพระธรรมพระวินัย และสั่งว่าให้หยุดภาวนา ตั้งแต่นี้ต่อไปให้ใช้กรรมไปตามประสาโลก กาลต่อไปข้างหน้าจะมีผู้มาสั่งสอน"
หลังจากที่หลวงปู่มั่นจากไป แม่ชีแก้วก็ได้แต่งงาน เมื่ออายุได้ 17 ปี และได้ใช้ชีวิตผ่านสุขทุกข์ต่าง ๆ ตามประสาโลก สำหรับผู้มีวาสนาย่อมเห็นโทษของการครองเรือน จึงได้ขอสามีบวชชี แต่สามีไม่ยินยอม ได้พยายามอยู่ถึง 2 ปี สามีจึงยินยอมให้บวช ชีวิตนักบวชจึงได้เริ่มต้น เมื่ออายุได้ 36 ปี ณ วัดหนองน่อง บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร โดยมีหลวงพ่อกา (ปู่ของพระอาจารย์อินทร์ถวาย วัดป่านาคำน้อย) เป็นพระอุปัชฌาย์
พรรษาแรกผ่านไป สามีจะให้สึก เพราะอนุญาตให้บวช 1 พรรษา คุณแม่ชีแก้วจึงได้ย้ายไปศึกษาปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์คำพัน ณ วัดภูเก้า ได้เกิดความรู้แปลก ๆ มากมาย ตามประวัติท่านกล่าวว่า จิตท่านผาดโผนมาก ออกรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องราวอดีต อนาคต ทั้งนรก สวรรค์ จิตดวงภาวนานี้ได้ทราบหมด
8 ปีจากนั้น พระอาจารย์คำพันได้ลาสิกขาไป แม่ชีจึงได้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านห้วยทราย ตั้งสำนักแม่ชีขึ้น เมื่อปี พศ.2488 คือสำนักชีในปัจจุบัน
ต่อมาเมื่อปี พศ. 2493 คุณแม่ชีแก้วได้นิมิตดังที่หลวงปู่มั่นได้เคยกล่าวไว้ ว่า กาลต่อไปข้างหน้าจะมีผู้มาสั่งสอน แม่ชีแก้วก็ได้เล่าให้เพื่อนแม่ชีฟังเพื่อเตรียมจัดสถานที่และรอพิสูจน์ความจริงร่วมกัน ปรากฎว่า มีพระผ่านมา แต่แม่ชีแก้วก็ว่าไม่ใช่องค์นี้ จนกระทั่งหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เดินทางมากับพระเณรจำนวนหนึ่ง แม่ชีแก้วเห็นเข้ารู้ทันทีว่าเป็นพระอาจารย์องค์นี้ที่ปรากฎตามนิมิตแน่ จึงได้พากันนิมนต์ต้อนรับ
(อัฐิแม่ชีแก้วแปรเป็นพระธาตุ)
หลวงตามหาบัว ได้เทศน์ไว้เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2549 ความตอนหนึ่งว่า
"อย่างแม่ชีแก้วนั่นออกรู้ข้างนอก กระจายไปเลย พอไปก็ว่าหลวงปู่มั่นท่านเวลาท่านจะจากไปท่านห้ามไม่ให้ภาวนา เราสะดุดกึ๊ก ต้องมีจุดใดจุดหนึ่งเราจะคอยฟังจุดนั้น พอแกแย็บออกความรู้ของแก อ๋อ อันนี้เอง แน่ะอย่างนั้นละเข้าใจทันที แล้วที่ไล่แกลงภูเขาก็จุดนี้จะเป็นอะไรไป
คือมันอยากภาวนามากเข้าๆ ก็เลยภาวนา แต่ระวังเอาแกว่างั้น บทเวลาเอากันจริงๆ แล้วก็นั่นละไล่ลงภูเขาร้องไห้ ก็คืออันนี้เอง แกไม่ยอม ความรู้ของแกดีไม่ดีเอามาทับหัวเราอีก ว่าเราเป็นลูกศิษย์ของแกไปอีก ใส่เปรี้ยงนี้ก็ไล่ลงภูเขา ร้องไห้ลงไป แกก็มีเหตุมีผลอยู่ ที่ท่านไล่ลงภูเขาเพราะอะไร ก็เพราะไม่เชื่อฟังคำท่าน เอาแต่ความรู้ของตนไปอวดท่าน ท่านก็ไล่เอาบ้างซิ ถ้าหากว่าจะปฏิบัติตามท่าน ในฐานะถือว่าเป็นครูเป็นอาจารย์แล้วก็ปฏิบัติตามที่ท่านสอนซิ ท่านสอนว่าไง ทีนี้ก็เลยปล่อยเรื่องของแกหมด เข้ามาหาจุดที่เราสอน อย่างนั้นนะ
พอเข้ามามันก็ถูกนี่ ก็สอนด้วยความถูกต้อง ผู้นั้นผิด งมเงาไปเฉยๆ พอเข้ามาจุดนี้มันก็จ้า สว่าง อัศจรรย์เกินคาดเกินหมายแกว่า ก็อย่างนั้นแล้ว พอออกจากที่ภาวนาก็หันหัวไปทางโน้นกราบ เราอยู่บนภูเขากับเณรภูบาล ทางด้านตะวันตก วัดห้วยทรายอยู่ทางนั้น บ้านห้วยทรายอยู่ทางนี้ วัดอยู่ทางนั้นเราอยู่ทางนั้น สำนักชีเขาข้ามทุ่งไปเลย วันพระเขาไปยกขบวนไปเลย พอ ๔ โมงเขาก็ขึ้นไปถึง ๕ โมงกว่าๆ เขาก็ลงมา ไปพูดถึงเรื่องปัญหานั่นละ นี่ละที่ว่าไล่ลงภูเขา ควรไล่มันต้องไล่จะว่าไง เมื่อเอาไว้ไม่อยู่แล้วก็ซัดกัน นิวเคลียร์ก็มานิวตรอนก็มาเข้าใจไหม ร้องไห้ลงภูเขาไป