จากความสวยงามชวนหลงใหลของปลาหมอสี ทำให้ คุณเศรษฐศักดิ์ โสจิศันสนีย์ อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 2 ตำบลบางกระเจ้า อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้ทดลองเลี้ยงปลาหมอสีจนประสบผลสำเร็จ และที่สำคัญได้ศึกษาการเพาะพันธุ์ จนทำให้ที่ฟาร์มปลาหมอสีของเขา มีปลาที่มีความสวยงามและเป็นที่ต้องการของตลาดมามากกว่า 10 ปี กันเลยทีเดียว
จากชอบตั้งแต่เด็ก จนเลี้ยงเป็นอาชีพ
คุณเศรษฐศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ซึ่งในช่วงที่ทำงานอยู่นั้นก็ได้ทดลองหาปลาหมอสีมาเลี้ยงอยู่ที่บ้านในยามว่าง จากเลี้ยงดูเล่นก็ฝึกเรียนรู้เกี่ยวกับการผสมพันธุ์ไปด้วย จนทำให้เวลานี้ปลาหมอสีเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับเขามามากกว่า 10 ปีแล้ว
“เหตุที่มาเลี้ยงปลาหมอสี เป็นเพราะว่าสมัยที่เป็นเด็ก ชอบเลี้ยงปลาสวยงามมากช่วงนั้น พอเราเติบโตมาสิ่งนี้ก็ยังอยู่ในใจตลอด ระหว่างที่เข้าทำงานอยู่บริษัท ก็ได้ไปเห็นปลาหมอสีที่เขาจำหน่ายกัน เราก็เลยเกิดความชอบในปลาชนิดนี้ ซึ่งความมีเสน่ห์ทำให้เราอยากเลี้ยง เพราะมันไม่ได้เป็นปลาจากแหล่งธรรมชาติ แต่เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมา จึงมีสีสันสวยงามและแปลกตาดี” คุณเศรษฐศักดิ์ เล่าถึงความเป็นมา
เมื่อตกลงปลงใจเป็นที่แน่นอนแล้วว่า อยากทดลองเลี้ยงปลาหมอสี จึงได้ไปหาซื้อปลามาเพื่อทดลองเลี้ยง โดยควบคู่ไปกับการศึกษาวิธีการเลี้ยงจากแหล่งที่ประสบผลสำเร็จ คือการสอบถามกับฟาร์มต่างๆ ที่เลี้ยงจนประสบผลสำเร็จ เพราะเมื่อสมัย 10 ปีที่แล้วนั้น ความรู้ทางโลกโซเชี่ยลมีเดียยังไม่กว้างขวางเหมือนเช่นปัจจุบัน
โดยพ่อแม่พันธุ์จะซื้อจากฟาร์มที่เชื่อถือได้ ต่อมาเมื่อเลี้ยงจนเกิดความชำนาญมากขึ้น จึงพัฒนาสายพันธุ์ให้มีปลาสีสันแปลกใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากขึ้นอีกด้วย
ใช้เวลาเลี้ยงไม่นาน ปลาหมอสี ก็มีโหนกสวย
คุณเศรษฐศักดิ์ ได้อธิบายในทุกขั้นตอนของการเลี้ยงปลาหมอสีให้ฟังว่า ในช่วงแรกจะนำพ่อแม่พันธุ์เลี้ยงภายในตู้กระจก ขนาด 48 นิ้ว โดยใส่ให้อยู่ในตู้เดียวกัน แต่ต้องมีแผงกั้นตรงกลางตู้ ให้ปลาอยู่คนละฝั่งกัน โดยอาหารที่ให้พ่อแม่พันธุ์กินจะเป็นไรทะเล ให้กินวันละ 3 มื้อ เช้า กลางวัน และเย็น
เมื่อปลาพร้อมที่จะผสมพันธุ์จึงจะนำแผงกั้นออกให้พ่อแม่พันธุ์มาอยู่รวมกัน หลักการสังเกตง่ายๆ คือดูความสมบูรณ์ของตัวเมียเป็นหลัก
“ปลาหมอสีนี้ชอบกัดกันเอง ถ้าไม่ใช่ช่วงที่ผสมพันธุ์ ซึ่งเราจะแก้ปัญหาคือการเลี้ยงแบบกั้นให้อยู่คนละฝั่ง หาตาข่ายมากั้นตรงกลางตู้เลย พอได้สักระยะ เราเห็นว่าตัวเมียพร้อมที่จะวางไข่ โดยสังเกตท่อรังไข่ยื่นออกมาจากตัวเมีย เราก็จะเปิดที่กั้นออก พร้อมวางถาดกระเบื้องสำหรับเพื่อให้ปลาวางไข่ พอตัวเมียวางไข่ใส่กระถาง ตัวผู้ก็จะมาฉีดน้ำเชื้อลงในไข่ รอประมาณ 24 ชั่วโมง พอตัวเมียไข่หมดแล้ว ก็จะเตรียมย้ายถาดกระเบื้องออกมาฟักต่อไป” คุณเศรษฐศักดิ์ กล่าวถึงวิธีการผสมพันธุ์
เมื่อนำถาดไข่ออกจากตู้พ่อแม่พันธุ์แล้ว จะนำถาดกระเบื้องที่มีไข่ติดอยู่มาใส่ลงในภาชนะสำหรับฟักไข่และโดยเปิดเครื่องทำออกซิเจนตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 5 วัน ลูกปลาหมอสีจะเริ่มฟักออกจากไข่ ซึ่งอาหารที่ให้ลูกปลาในระยะนี้กินจะเป็นไรฝุ่นหรือไข่ตุ๋น ให้กินประมาณ 10 วัน จึงเปลี่ยนอาหารเป็นไส้เดือนน้ำในช่วงอายุถัดไป
“ช่วงแรกที่ลูกปลาออกจากไข่นี่ ไข่ตุ๋น เต้าหู้ไข่ สามารถให้กินได้ โดยให้กินวันละ 3-5 ครั้ง ต่อวัน ช่วงที่เป็นลูกปลา และที่สำคัญต้องถ่ายน้ำทุกวันด้วย พอลูกปลาทั้งหมดเริ่มแข็งแรงขึ้น ก็จะย้ายมาใส่ตู้เลี้ยงที่เป็นตู้กระจก โดยให้อยู่เป็นครอกๆ ไป ของพ่อแม่พันธุ์ไหนก็จะอยู่ในชุดนั้น เราก็เลี้ยงไปอีกประมาณ 1 เดือน ก็สามารถจำหน่ายเป็นปลาไซซ์เล็กได้” คุณเศรษฐศักดิ์ บอก
ซึ่งปลาที่เป็นไซซ์เล็กนี้ คุณเศรษฐศักดิ์ บอกว่า เหมาะสมสำหรับผู้ที่จะเริ่มเลี้ยงใหม่ๆ โดยนำปลาชุดนี้ไปทดลองเลี้ยงก่อน เมื่อปลาเจริญเติบโตอายุได้ประมาณ 2 เดือน ก็สามารถจำหน่ายสร้างเงินได้ และต่อมาจึงค่อยพัฒนาเลี้ยงไซซ์ใหญ่และทดลองผสมพันธุ์
ส่วนปลาที่ไม่ได้จำหน่ายเป็นไซซ์เล็กนั้น คุณเศรษฐศักดิ์ก็จะนำมาต่อยอด โดยเลี้ยงต่อไปอีกประมาณ 2-3 เดือน ให้เป็นปลาหมอสีที่มีขนาดไซซ์ ประมาณ 3.5 นิ้ว ที่มีสีตัวและโหนกตรงบริเวณหัวเด่นชัด ทำให้ผู้ที่สนใจเข้ามาติดต่อซื้อสามารถนำไปเลี้ยงเพื่อความสวยงามได้เลย โดยราคาก็จะแตกต่างจากไซซ์เล็กที่จำหน่ายเป็นครอกๆ
เนื่องจากวิธีการเลี้ยงปลาหมอสีค่อนข้างมีความสะอาด เพราะมีการถ่ายน้ำอยู่เสมอ ดังนั้น เรื่องโรคที่เกิดกับปลาจึงไม่มี แต่ถ้าเจอส่วนใหญ่จะเป็นเกี่ยวกับพยาธิ ที่ติดมากับอาหารสดที่ให้ปลา จะแก้ด้วยการให้ปลากินยาถ่ายพยาธิเข้ามาช่วย เพื่อให้ปลามีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้น
ตลาดจีน เน้นสีแดง หัวโหนก ลายคาดลำตัวเด่นชัด
ปลาหมอสีที่ฟาร์มแห่งนี้ส่วนใหญ่จะเน้นส่งจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ โดยลูกค้าที่สำคัญจะเป็นคนจีน ลองลงมาคือ คนอินเดีย โดยเน้นให้ปลามีลักษณะสีแดง หัวโหนกสูง และมีลายข้างลำตัวสีเข้ม คือ ลายดำคาดจากหัวไปจนถึงหางยาวแบบเห็นเด่นชัด
“ถ้าเอาจริงๆ ปลาหมอสีนี่สามารถจำหน่ายได้ทุกตลาด แต่หลักๆ เราคือ คนจีน เขาจะเน้นให้ตัวปลามีสีแดง หัวโหนก แล้วก็ลายข้างลำตัวต้องเข้ม ถ้ามี 3 อย่างนี้ครบ คนจีนรับซื้อหมด เรียกว่าเป็นปลาเกรด เอ ส่วนปลาที่เป็นเกรด บี คือมีไม่ครบ 3 อย่าง แบบที่กล่าวมา ก็จะส่งจำหน่ายตลาดอินเดีย โดยทั่วไปคนที่มาซื้อก็จะเป็นบอกกันไปปากต่อปาก เลยทำให้เรามีลูกค้าประจำจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอินโดฯ มาเลเซีย แต่ตลาดหลักคือ จีน ส่วนคนไทยที่ชอบก็มีเข้ามาซื้อ มาศึกษาเหมือนกัน” คุณเศรษฐศักดิ์ เล่าถึงความชื่นชอบของตลาด
ราคาของปลาหมอสีที่มีอายุ 1 เดือน ขนาดไซซ์เล็ก โดยจำหน่ายยกครอก โดยมีลูกปลาประมาณ 800-900 ตัว ราคาอยู่ที่ 8,000 บาท ส่วนปลาที่เป็นไซซ์ใหญ่มีโหนกที่หัว สีตัวเด่น และมีลายคาดข้างลำตัวคมชัด ขนาดไซซ์ 3.5 นิ้ว ราคาอยู่ที่ตัวละ 400 บาท โดยราคาสามารถขึ้นลงได้ตามกลไกตลาด
สำหรับผู้ที่สนใจอยากเลี้ยงเพื่อเป็นงานสร้างอาชีพอยู่กับบ้าน คุณเศรษฐศักดิ์ บอกว่า เป็นอาชีพที่สามารถทำเงินได้ เพราะสามารถเลี้ยงอยู่กับบ้านได้สบายๆ ขอให้เลี้ยงปลาด้วยใจรักและมีคุณภาพ เรื่องของตลาดก็จะมีคนมาติดต่อขอซื้อเอง หรือสามารถจำหน่ายในโลกโซเชี่ยลมีเดียก็ได้ ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถทำตลาดได้หลากหลายช่องทางกว่าสมัยก่อน เมื่อย้อนไปกว่า 10 ปีที่แล้วที่เขาเริ่มเลี้ยงใหม่ๆ
“ตลาดปลาหมอสี สามารถไปได้เรื่อยๆ และที่สำคัญเราไม่ต้องจากบ้านไปไหน สามารถทำที่บ้านได้เลย ซึ่งการเลี้ยงปลา จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ไม่ยาก แต่มันอยู่ที่รายละเอียดที่เราใส่ใจ ว่าปลามีนิสัยอย่างไร คนที่เริ่มแรก ก็เริ่มจากซื้อมาเลี้ยงใส่ตู้เล็กๆ ก่อน จะได้รู้ว่าเราชอบจริงไหม ต่อมาก็มาเรียนรู้นิสัยปลา ว่าปลาชอบกินอาหารเม็ดหรือว่าอาหารสด ส่วนเรื่องการทำตลาด ขอเพียงเราไม่หยุดที่จะพัฒนา โดยผสมสายพันธุ์ใหม่เรื่อยๆ เพื่อให้ปลามีลักษณะใหม่ๆ มากขึ้นกว่าเดิม ลูกค้าเห็นแล้วแปลกดี เราก็จะสามารถจำหน่ายได้ ตลาดเราก็จะมีเข้ามา ใครที่สนใจยังไม่มีที่ศึกษาเข้ามาหาเราได้ เรายินดีบอกสอนแนะนำทุกเรื่องที่อยากรู้” คุณเศรษฐศักดิ์ กล่าวแนะนำ