เคล็บลับ! สารพัดวิธีต่อสู้กับปัญหา รักแร้ดำและกลิ่นเต่า ( รีวิวจากชีวิตจริง )
นี่คือกระทู้รีวิวแรกของเรา คือบับบบบ.......ส่องมาปลายปี แอบเก็บความรู้ไปทดลองทำนู่นนี่นั่น ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง(ส่วนมากไม่ได้ผลเพราะความขี้เกียจของเราเองแหละ) เรามีปัญหารักแร้ดำอ่ะนะ แบบดำมาตั้งแต่เรียน ม.ปลาย แบบด๊ำ ดำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มากอ่ะ
เราคิดว่าสาเหตุรักแร้ดำของเรา มาจากหลายสาเหตุนะ ดังต่อไปนี้แหละ
1.เราใช้โรลออนมาตั้งแต่เด็กไง ตั้งแต่เริ่มมีกลิ่นเต่าอ่ะแหละ
2.การทำความสะอาดสิ่งตกค้างจากโรลออน เราทำได้ไม่ดีพอ
3.อาจเพราะโรลออนบางยี่ห้อมีแอลกอฮอล์ หรือสารเคมีอะไรก็แล้วแต่ ทำให้ระคายเคือง และก็ดำในที่สุด
4.การถอนขนรักแร้
ส่วนใครๆที่อาจจะมีสาเหตุรักแร้ดำมาจากน้ำหนักตัวที่มาก หรือการเสียดสีกันไรงี้ อันนั้นของเราตัดไปได้เลยเพราะเราหนักประมาณ 42-43 สูง 150 ซม.เรียกได้ว่าไซด์มินิกันเลยทีเดียว
แต่เราขอแอบเล่านิดนึง คือเราแบบตัวเล็กนะ แต่มีกลิ่นตัวอ่ะ แรงด้วยนะเออ กลิ่นตัว กลิ่นทรีน นี่มาเลยจร้า สวรรค์ใจร้ายกะเราจริงๆ ราอ่ะมีเพื่อนสนิทๆ 3 นาง
คนที่ 1 น้ำหนัก 70 กว่าสูง 153 ซม. รักแร้ดำ อันนี้เข้าใจว่ามาจากการเสียดสีของผิวหนัง เพราะนางไม่มีกลิ่นตัวและไม่เคยใช้
โรลออนเลย
คนที่ 2 น้ำหนัก 50 กว่า สูง 152 ซม.รักแร้ดำ ไม่มีกลิ่นเต่าเช่นกัน ไม่ใช้โรลออน
คนที่ 3 หนัก 45 กก. สูง 156 รักแร้ดำนิดหน่อย ไม่มีกลิ่นเต่า ไม่ใช้โรลออน
ที่เรายกตัวอย่างเพื่อนเราให้ดูเนื่องจากเราคิดว่าสาเหตุรักแร้ดำ อาจจะมาจากหลายสาเหตุ หรืออยู่ดีๆมันอยากดำมันก็ดำเอง ก็ผิวตรงนันมันอ่อนๆมันก็อาจจะดำคล้ำง่ายเป็นธรรมดาอ่ะเนอะ
อ่ะ !!! เข้าเรื่องกันเถอะ ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 ปีก่อนหน้านี้ ตอนนั้นเราก็น่าจะอายุประมาณ 26-27 ก็อยากจะใส่เสื้อแขนกุด โชว์บ้างอะไรบ้าง ตามประสาสาวแรกแย้ม แง้มฝาโลง เอ๊ยยย ไม่ใช่ละ ฮ่าๆๆ คือก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้เครียดกับปัญหารักแร้ดำนะ จนเราอายุปาเข้าไป 26-27 อ่ะ เราถึงมานึกออกว่า เฮ้ยย เรารักแร้ดำ ใส่เสื้อแขนกุดไม่สวยนี่หว่า
เราก็มีโอกาสได้เข้ามาอ่านที่สาวๆห้องแป้งรีวิวกัน เราก็เลย เออออ น่าจะลองดูสักตั้งนึง ก็รวบรวมตะลุยอ่านกระทู้รีวิว แล้วตกผลึก นี่!! ตกผลึกเชียวนะเทออออออว์ ออกมาเป็นการแก้ไขปัญหารักแร้ดำของเรา ดังนี้ ผผ๊าง ผ๊าง ผ๊าง ผ่างงงงงงง (เรียงลำดับไปตามระยะเวลาที่ได้ทดลองใช้กับตัวเองนะจ๊ะ)
1.หลังจากที่ตกผลึกได้แล้ว เราเลิกใช้โรออนแบบน้ำ หรือแบบลูกกลิ้งเลยทันที ทันที ขอบอกเลยว่าทันที เดิมเราใช้
โรลออนของนีเวีย กะ เรโซน่า กลิ่นหอมจ๊ะ ปกป้องกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ทั้งวัน บางสูตรได้ 2 วันนะเทอว์ หอมซ๊ะนานเชียว แต่พวกเทอว์สังเกตไหม ว่าเสื้อตรงจั๊กกะแร้ของพวกเธอ มันเหลืองและแข็ง แถมมีกลิ่นตุๆติดเสื้ออีกจร้า เสื้อสีอื่นๆไม่ไรมาก แต่เสื้อสีขาวนี่รอยเหลืองๆนี่เด่นชัดมากคร้า คุณๆทั้งหลาย อ้าววววว !!! แล้วงี้จั๊กกะแร้ก็เหม็นหนะสิ
2.ก็เลยเป็นวิธีของขั้นตอนที่ 2 ต่อมาชั้นก็ไปซื้อแบบสเปรย์มาใช้ สิจ๊ะเธอ ตอนนั้นใช้สเปรย์ของเรโซน่า สีเขียวๆก็หอมดี ปกป้องบางครั้งก็ถึงวัน บางครั้งช่วงบ่ายๆกลิ่นเริ่มมา บ่ายๆก็หนีบๆจั๊กกะแร้ไว้หน่อย กลัวคนได้กลิ่น ออ!! เรามีสเปรย์ระงับกลิ่นติดกระเป๋าไว้เลยนะตอนนั้น กลิ่นมาเมื่อไหร่ เข้าห้องน้ำ ฉีด ปื๊ดๆเลย แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากันไป
3.เราเลิกถอนขนรักแร้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และใช้วิธีการโกนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เช่นกัน
4.ใช้ Ratin A ในรีวิวของสาวๆห้องแป้งซื้อหลอดเล็กมาใช้ ราคาไม่ถึงร้อยมั้ง แต่อิชั้นไปซื้อร้านขายยาบอก หลอดเล็กหมดจะหนู จัดหลอดใหญ่มา 2 ร้อยกว่าบาท หืมๆแพงเชียว สรรพคุณ >> เขาบอกว่าใช้แล้วรักแร้เราจะลอกๆคันๆ และจะเรียบเนียนขึ้น หนังไก่ก็เรียบขึ้น บางคนก็ว่าขาวขึ้น แต่ใช้สักเดือน สองเดือนก็ให้พักนะเธอ ไม่ใช่ตะบี้ตะบันใช้ >> ผลที่ได้สำหรับเรานะ เขาบอกว่ามาว่าจั๊กกะแร้จะลอก เป็นขุยๆ ออกมาเพราะ Ratin A จะช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่เรา ไม่ลอก ไม่คันอะไรทั้งนั้น(คือแอบเม้าท์นิดนึง เราเคยใช้ผลิตภัณฑ์ที่เขาบอกว่าใชแล้วจะผลัดเซลล์ ผิวจะลอก เราใช้ทุกสิ่งที่บอกว่าจะลอก ไม่ว่ากับอวัยวะส่วนใด มันไม่เคยลอกเลย อันนี้คงเป็นเพราะผิวหนังของเราเองแหละ) แต่เราก็ใช้นะ หยุดบ้างใช้บ้าง สำหรับเราเราคิดว่าผิวมันเรียบขึ้นนิดนึง ขาวขึ้นมั้ย ก็นิดนึง นิดดดดดดเดียวนะ แต่ก็ดีกว่าไม่ใช้อ่ะ เหมือนเป็นการปรับสภาพผิวให้มันเรียบเนียนขึ้นมาหน่อย
5.ตอนอาบน้ำ เราจะพยายามขัดๆถูๆรักแร้ไม่ให้มีกลิ่นอะไรเหลือเลย ส่วนมากที่เราใช้คือพวกฟองน้ำ หรือใยขัดตัวที่ใช้คู่กับสบู่ (พูดก็พูดเถอะ ตอนที่เราใช้โรลออน เราอาบน้ำเสร็จบางทีนะ กลิ่นโรลออนยังติดอยู่เลย บางทีก็มีทั้งกลิ่นเต่าผสมอยู่ด้วย อันนี้ไม่ได้โทษโรลออนแต่อย่างใด โทษความซกมกของตัวเองอย่างเดียวเลย ) บทสรุปของข้อ 5. คือ เลิกซกม๊ก ซะนะ เข้าจ๋ายยยย
6.คือทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมา เราเริ่มทำพร้อมกันเลยนะ วันเสาร์ อาทิตย์ เราก็อาจจะมีเอาพวกครีมมะขาม หรือครีมพอกหน้า มาพอกๆรักแร้บ้าง นิดหน่อย น๊านนนน นาน ที บางวันก็เอาครีมทาหน้ามาทาบ้าง บางคนแนะนำให้เอาครีมกวนอิมมาทา หรือพวกครีมที่ขายตามตลาดนัด คล้ายๆกวนอิม แต่เราทาแล้วไม่ขาวนะ เฉยๆแถมล้างออกยากมากกกก อีกต่างหาก เราแบบทาหลายยี่ห้อมาก แต่กับเราไม่ได้ผล ส่วนครีมทาหน้าปกติของเรา เราจะใช้ครีมน้ำนมของ Cute press เราก็เอามาทาบ้าง ไม่ทาบ้าง คือง่ายๆเลย เราขี้เกียจ (ในตอนนั้นนะ)
7.เราทำทั้ง 5 ข้อข้างต้น ทุกวัน แต่ข้อ 6. ไม่ทุกวัน นานๆที เราปล่อยเวลาผ่านไป ประมาณ 3 เดือน ถึงคราวที่เราคิดว่าเราจะหยุดใช้ Ratin A เพราะก็ใช้ติดต่อกันมานานมากแล้ว เราสังเกตได้ว่า รักแร้เรา เรียบขึ้นนิดหน่อย ส่วนความดำ ลดลงนิดนึง แต่เดิมรักแร้ดำแบบเป็นปื้นๆเลย รอยปื้นๆนั้นยังอยู่ แต่จากสีดำ ก็เป็นสีน้ำตาลๆ ถือว่าดีขึ้นในระดับที่น่าพอใจ กับปัญหาที่สะสมมานาน จะให้ดีขึ้นใน 3 เดือน นอกจากจะมีเงินถุงเงินถัง คงจะยากเอาการ สาวงบน้อยเช่นเรา คงทำไม่ได้
8.เมื่อเวลาผ่านไป ใยเลยเราจะหยุดกับผลลัพธ์เพียงแค่จั๊กกะแร้เราเปลี่ยนจากสีดำ เป็นสีน้ำตาล เราก็อ่านรีวิวเจอมาอีกแระ คราวนี้แป้งเต่าเหยียบโลก สะท้านปฐพี ในตำนาน สรรพคุณบอกว่า >> รักแร้ขาว ระงับกลิ่นเป็นเลิศ จัดมา 1 กระปุก ใช้ในวันแรก ทาไม่ค่อยติดรักแร้เท่าไหร่ แต่ติดมือเป็นก้อนๆเลย เอ!! หรือเราใช้ไม่เป็นนะ อีกสองวันต่อมา ด้วยความที่ทาแล้วติดแต่มือ ไม่ติดรักแร้ เลยจัดการเทแป้งออกมาจากกระป๋อง เอามาใส่กระปุก และเอาพัพพ์ที่ใช้ทาแป้ง แตะแป้งเต่าแล้วมาทาแทนเลย ก็โอเค ติดรักแร้มากขึ้นนิดนึง ไม่เลอะมือด้วย แต่!! กลิ่นค่ะ กลิ่นเต่าเรา แป้งเต่านางเอาไม่อยู่แบบว่าสายๆเต่าเรามาเดินเพ่นพ่านแล้ว ก็เลยต้องอำลาแป้งเต่าไป ตั้งแต่ใช้ได้อาทิตย์เดียว (เราว่าแป้งเต่าสำหรับ 2-3 วันแรก ก็พอกลบกลิ่นได้นะ แต่ไหงใช้ไปๆมันเอาไม่อยู่ซะอย่างงั้น) ก็กลับมาซบอก เรโซน่า แบบสปรย์เช่นเดิม ณ ตอนนั้น
9.เมื่อต้องอำลาแป้งเต่า เราหรือจะหยุดแค่นั้น คราวนี้ก็สารส้มแบบแท่ง สิจ๊ะ จะรออะไรล่ะ สารส้มแท่งแรกที่ซื้อราคา 39 บาท เป็นแบบแท่งพร้อมใช้งานอ่ะแหละ แต่จำยี่ห้อไม่ได้ ฉลากสีน้ำเงินเข้มๆหม่นๆ จัดมาวันแรกแบบว่าจุ่มน้ำเสร็จเอามาป้าย คุณแม่จ้าววว แสบบบบบมาก แถมฝืดอีกต่างหาก เห้ย!! ยังไงเนี่ย แต่เราก็ฝืนใช้ต่อไป ถามว่าเอาอยู่มั้ยในเรื่องกลิ่น อาทิตย์แรก เอาอยู่ อาทิตย์ต่อมา กลิ่นออกช่วงบ่ายๆ ก็ถือว่าพอรับได้ ขาวขึ้นมั้ย >> ไม่ขาวขึ้น แต่ไม่ดำไปมากกว่าเดิม ใช้มาได้สัก 2 เดือน สารส้มไม่บิ่นแม้แต่น้อย มันคงอัดมาอย่างหนาแน่น แต่บังเอิ๊ญ บังเอิญ เราทำหลุดมือมันแตกนิดหน่อย แต่เราไม่กล้าเอาทารักแร้แล้ว กลัวบาดไง แต่ด้วยความเสียดาย เราเอามาทาเท้า เฮ้ยยยยย คือดีงาม กลิ่นเท้าหายไป แบบไม่มีกลิ่นเลย ใส่รองเท้าอับแค่ไหน ก็ไม่มีจร้า แต่ผลเสียมีนิดหน่อย ถ้าเราทาสารส้มก่อนทาครีม เหมือนครีมมันทาไม่ติดอ่ะ มันแบบแห้งๆฝืดๆไปเลย แต่เรื่องกลิ่นเท้านะ เราคอนเฟิร์ม ระงับกลิ่นได้ 98.88888% เลย ส่วนรักแร้ ก็ต้องกลับมาใช้แบบสเปรย์เหมือนเดิม
10.เมื่อสารส้มแท่งเก่า อำลาจากไปก็ได้เวลาค้นหาสิ่งใหม่กันต่อไป เราไม่หยุดที่จะค้นหา เพราะด้วยความที่เราฉีดสเปรย์แล้ว เรารีบๆอ่ะ สปรย์มันชอบเป็นแป้งๆแล้วเวลาใส่เสื้อที่มันพอดีๆตัวเวลารูดเสื้อลงมา คราบสเปรย์มันจะติดเสื้อเป็นรอยขาวๆซึ่งซักออกยากมากกกก บางรอยก็ไม่ออกนะ พูดเลย ทันใดนั้นเราก็ค้นๆๆๆในเน็ตไปเจอสารส้มแบบน้ำ ยี่ห้อ Focal เราคือแบบนั่งทำงานอยู่ อยากจะพุ่งตัวจากที่ทำงานเดินไปโลตัสแล้วก็สอยมาเดี๋ยวนั้นเลย แต่ก็ทำไม่ได้นะ รอจนเลิกงาน จัดมา 1 ขวดเป็นสเปรย์แบบน้ำ รุ่งเช้าก่อนมาทำงานก็ฉีด ปื๊ดดดด แต่กว่าจะได้แต่ละปื๊ดก็ปวดนิ้วหน่อย ฉีดยากไปนิด ฉีดเสร็จด้วยความที่มันเป็นแบบน้ำ ฉีดทีมันก็ไม่เปียกแค่รักแร้ ไหลยาวมาเปียกถึงเอวแหนะเธอ อาทิตย์แรก ระงับกลิ่นได้ 90% อาทิตย์ที่ 2 ระงับได้80 -70-60 -50 ลดลงมาเรื่อยๆ เราไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะ ว่าเราใช้อะไรพวกนี้แต่ละอย่างประสิทธิภาพมันจะลดลงเรื่อยๆ แต่ด้วยความที่เราอยากใช้ สารส้มแบบน้ำ เราก็ไม่ถอดใจนะ เราก็ใช้จนหมดขวดแรก ผลที่ได้ เราจะบอกว่า มันขาวขึ้น จริงๆ ในระยะเวลาประมาณสองเดือนกว่าๆ มันดีขึ้น เราเลยตัดสินใจซื้อขวดที่ 2 และตอนที่เราใช้สารส้มแบบน้ำ เราไม่ได้ใช้สเปรย์เรโซน่าเลย ก็อดทนเรื่องกลิ่นเอา
11.เมือเราเดินไปซื้อขวดที่ 2 เราก็เห็นว่า เอ!! มันมีแบบแท่งด้วยนี่นา เราเลยจัดมา Focal แบบน้ำ และแบบแท่ง ใช้คู่กันไปเลยจร้า อาบน้ำเสร็จทาสารส้มแบบแท่ง เช็ดตัว ฉีดแบบสเปรย์ตามปื้ดๆๆ แล้วแต่งหน้าแต่งตัว ไม่ใช้สเปรย์แล้ว ในระยะเวลาที่ใช้ขวดที่ 2 สังเกตได้ว่าปื้นๆสีน้ำตาลนั้นจางลงจริงๆ ในช่วงนั้นพอใจกับผลที่ได้มากๆนะเธอ คือดีใจเลยแหละ กล้าใส่เสื้อแขนกุดเลย แบบรักแร้ชั้นไม่ดำปี๋แล้วนะยะ แต่กลิ่นเต่าเจ้ากรรมมันก็รังควาญเราไม่เลิก รักแร้ขาวขึ้นจริง แต่กลิ่นไม่โอเค ถ้าเรายังจะเดินทางร่วมกันอีก เราก็จะต้องหาตัวช่วยเพิ่มขึ้นอีก
12.เราเลยทุ่มเทกับสารส้มยี่ห้อนี้(Focal)ด้วยความที่เราคิดว่ามันช่วยให้รักแร้เราขาวขึ้น เราเลยกลับไปจัดมาแบบ Full Option สารส้มแบบแท่ง สเปรย์แบบน้ำ และสารส้มแบบน้ำที่เป็นหัวแบบโรลออน ใช้มัน 3 อย่างเลยจร้า อาบน้ำเสร็จ ใช้แบบแท่ง ป้ายปื้ดๆ เช็ดตัวเสร็จใช้แบบโรลออน ตามด้วยแบบสเปรย์ แต่ด้วยความที่สเปรย์มันฉีดยากอ่ะ ปวดนิ้ว เลยเลิกฉีด เลยเอามาฉีดเท้าแทน ผลลัพธ์ที่ได้ เฮอะๆๆ ระงับกลิ่นดีนักแล (เหมือนเราอาจจะตั้งองศาในการฉีดไม่ถูกอ่ะ พอยกขึ้นมาฉีดรักแร้ แล้วมันจะฉีดยากแต่พอฉีดเท้า ก็ฉีดได้ปกตินะ ไม่ได้ยากอะไร) เลยใช้แค่สารส้มแบบแท่ง และ แบบโรลออน ผลที่ได้ก็อยู่ในระดับน่าพอใจ กลิ่นเต่าไม่เพ่นพ่านมาก แต่ก็อย่างว่า คนเราจะหยุดแค่นี้ได้ยังไง ค้นหาต่อไป (ออ แต่เราจะบอกว่า ถ้าสาวๆคนไหนกลิ่นตัวไม่ได้แรงมาก เราว่าใช้ Focal ก็โอเคนะ รักแร้ขาวขึ้น ระงับกลิ่นได้ในระดับดีทีเดียว)
13.การค้นหา และทดลองสิ่งใหม่ เกิดขึ้นเสมอสำหรับเรา คราวนี้ได้สารส้ม ยี่ห้อ เกรซ สูตรขมิ้น และโรลออน ยี่ห้อ Deodomin สูตรสีเหลืองสูตรขมิ้น เช่นกัน มาจากโลตัส ใช้ 2 อันควบคู่กันเลยจร้า คือดีนะ ระงับกลิ่นได้ดี ดีกว่า Focal สูตร 2 พลังแบบที่เราทดลองใช้ และขาวขึ้น จริงๆ ขาวขึ้นเยอะเลย ใช้ได้ประมาณ 2 เดือนแรก รอยปื้นๆสีน้ำตาล คือมองไม่ออกแล้วว่ามันปื้นๆมันแบบสีกลมกลืนกันทั้งรักแร้แล้ว ไม่มีปื้นๆสีน้ำตาลเด่นชัดขึ้นมาแล้วอ่ะ เราคิดว่าสิ่งที่ทำให้รักแร้เราขาวขึ้นแบบได้ผลเลย คือสารส้ม เกรซ ส่วนสิ่งที่ช่วยระงับกลิ่น + ขาวนิดหน่อย ก็คือ Deodomin สองอย่างนี้เราปลื้มมม เลยนะ เราใช้ไปได้ 4-5 เดือนเลยนะ เราโอเค แต่การค้นหาก็ไม่สิ้นสุดนะคะ
14.ด้วยความที่เรากลิ่นตัวค่อนข้างจัดจ้าน เราเลยต้องค้นหาๆสิ่งที่ตอบโจทย์เราได้มากที่สุด เรายังใช้สารส้ม ยี่ห้อ เกรซ สูตรขมิ้น และโรลออน ยี่ห้อ Deodomin สูตรสีเหลืองสูตรขมิ้น เช่นเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือ นีเวีย สเปรย์อินวิซิเบิ้ล แบล็กแอนด์ไวท์ ที่เราเลือกสูตรนี้ เพราะเรามีทฤษฎีใหม่ เราจะไม่ฉีดสเปรย์อะไรก็ตามลงรักแร้เราโดยตรง เราจะฉีดที่เสื้อ ช่วงรักแร้ ให้สเปรย์โดนเสื้อ ไม่ให้โดนรักแร้ เราใช้สูตรนี้เพราะมันฉีดลงเสื้อแล้วมันไม่ทิ้งคราบนาน ตอนแรกที่ฉีดมันจะเป็นแป้งๆเกาะที่เสื้อ สักพัก มันก็จะหายไป ใช้ฉีดเท้าก็โอเค เท้าไม่เหม็นด้วย ในความคิดเราสเปรย์ของนีเวีย ระงับกลิ่นได้ดีทุกตัว แต่อยู่ที่เราจะชอบกลิ่นไหนมากกว่ากัน (ก่อนนี้เราใช้มาหลายสูตร หลายยี่ห้อ แต่ส่วนมากจะเลือกแบบไม่มีแอลกอฮอลล์นะ) ช่วงนี้เราเลยใช้สูตร 3 ประสาน โอเคในทุกๆด้านแระ ความขาวคงที่ กลิ่นดีคงทน
15.ต่อมาความอยากลองของใหม่ งานของเราก็เริ่มอีกครั้ง คราวนี้ เดินไปเจอโอเรียนทอล พริ้นเซส ให้โหลดแอฟแล้ว ซื้อของ 3 ชิ้นจะได้ลด 50% ตอนแรกกะซื้อแค่ลิปมันแบบกระปุก กลิ่นสตอเบอรี่ กับราสเบอรี่ ปกติเราใช้อยู่แล้ว เหลืออีก 1 อย่างเราเลยจัดครีมทารักแร้ Pure white Secret cream มา 1 หลอด กลิ่นหอมๆตามสไตล์โอเรียลทอลนะ ตอนเอามาไม่ได้หวังผลไรมาก เราเลยลองสูตรใหม่ของเรา เลิกใช้สารส้ม อาบน้ำเสร็จ ใช้ครีมนี่แหละทา และใช้สเปรย์นีเวีย ฉีดๆที่เสื้อ ผลที่ได้คือไม่มีกลิ่น รักแร้ไม่ดำลง แถมขาวขึ้นอีกนิดนึงนะ พอใจเลยแหละ เออ มันโอเค เราทาแบบเช้าและก่อนนอนเลยนะ ในวันเสาร์ อาทิตย์หรือวันหยุด เราทาแค่ครีมนะ ไม่ได้ฉีดสเปรย์ มันเอาอยู่แหละตัวเธอ ที่สำคัญคือรักแร้ไม่ดำ โอ เยส
16.การค้นฟ้าคว้าดาวของเราไม่จบแค่นั้นแน่นอน เมื่อไปอ่านเจอรีวิว สารส้มแบบน้ำ ที่ขายใน 7-11 ยี่ห้อ Crystal จะรอช้าเหรอ จัดมาสิ ด้วยความที่อยากรู้ว่าผลที่ได้จะเป็นยังไง จัดเลยเดี่ยว ๆ ไม่ใช้ควบกับอะไรทั้งสิ้น ฉีดปื้ดๆ ออกไปทำงานจ้ะ เท่านั้นแหละ ยังไม่เที่ยง เต่าออกมาเดินเต็มไปหมดเลย คือ สำหรับเรา คือไม่เหมาะ เลิกใช้กับรักแร้ นำมาฉีดเท้าเช่นที่ผ่านมา และหันกลับมาใช้ครีม โอเรียนทอล+สเปรย์นีเวีย จนครีมหมดหลอด
17.เมื่อครีมหมด ก็ต้องออกไปหาซื้อ เดินไปที่ร้านโอเรียนทอล หลังเลิกงานพนักงานบอกว่า ของหมด กว่าจะเข้านี่อีกหลายวัน อ้าว ทำไงล่ะทีนี้ ไหนก็ได้มาเลยจัดอย่างอื่นมาทดแทนซะหน่อย เราเลยซื้อ Pure White Secret Gentle Wash
มาแทน เป็นครีมแบบขัดรักแร้อ่ะ เหมือนช่วยทำความสะอาดให้ดีขึ้นนะ แต่ก่อนเราใช้ใยขัดตัวอาบน้ำขัดๆถูๆใช่มั้ย ตอนนี้เราเลยเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้ขัดแทน ขัดทุกเย็นตอนอาบน้ำเลย ตัวนี้ไม่ได้ช่วยให้ขาวขึ้นนะ แต่เราว่ามันช่วยให้สะอาด ไม่มีกลิ่น ทำให้สิ่งที่หมักหมมสะสมมันหลุดออก รักแร้เนียนขึ้นนิดหน่อย มันโอเค เราตั้งใจใช้ต่อไปเรื่อยๆเป็นตัวช่วยในการทำความสะอาด ไม่หวังผลเรื่องขาวนะ เราหวังผลเรื่องกลิ่น
18.ต่อมค้นหาเราเริ่มอีกครั้งเมื่อไปเจอ รีวิว โรลออนมังคุด ของอภัยภูบศรใน 7-11 สูตรมังคุด จัดมาทันที เช่นแผนเดิมก่อน ใช้แบบเดี่ยวๆ สัมผัสแรก ลักษณะตัวน้ำของโรลออน ออกขาวๆคล้ายโรลออนของนีเวีย หรือโรลออนตามท้องตลาดทั่วไปแต่เข้มข้นน้อยกว่านิดหน่อย ทาแล้วไม่เหนียว กลิ่นอ่อน ๆ เราชอบนะ เราว่าหอม และด้วยความที่มันเป็นน้ำขาวๆ คล้าย
โรลออนทั่วไปสิ่งที่กังวลคือ ทำให้เสื้อเหลืองตรงรักแร้ แล้วมีกลิ่นตุๆเหมือนเดิมอีก ในตอนที่เราใช้นี่เราสังเกตเสื้อเราทุกวัน ผลปรากฏว่า เสื้อไม่เหลืองนะ ไม่มีกลิ่นตุๆ ติดเสื้ออย่างที่กังวล แต่การระงับกลิ่นสำหรับเราให้แค่ 60% ใช้เดี่ยวๆอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ อาทิตย์ต่อมาก็ใช้สเปรย์ฉีดเสื้อเหมือนเดิม แต่ก็ทาเจ้านี่อยู่นะ และก็ใช้โอเรียนทอล ขัดรักแร้เหมือนเดิม ไม่ทำให้ขาวขึ้น แต่ไม่ดำขึ้นนะคะ ความขาวคงที่ แต่กลิ่นนี่ไม่คงทน และเราคิดว่ามันแห้งช้านะ แต่พอแห้งแล้วก็แห้งเลย เหมือนจะเป็นแป้งๆหน่อยๆด้วย ใช้หมดแล้วเราก็ไม่ได้ใช้ต่อ อันนี้เราว่าเหมาะกะคนที่กลิ่นเต่าไม่แรงมาก
19.ปัจจุบันนี้เรากำลังทดลองใช้ครีมทารักแร้ Finale Whitening อยู่ เป็นการค้นพบโดยบังเอิญเพราะวัตสันเอามาเซลส์ เราจะบอกว่าอย่าทาเดี่ยวๆโดยเด็ดขาดถ้าคุณจะออกไปไหน เพราะมันไม่ระงับกลิ่น มันเป็นครีมทาให้ขาว คือตอนแรกนึกว่าจะเหมือน โอเรียนทอลไง ช่วยระงับกลิ่นด้วยไรงี้ คืออันนี้เราโง่เอง เราเข้าใจผิด ฮ่าๆๆๆ ช่วงนี้เราทาก่อนนอน ยังไม่มีไรเกิดขึ้น จะดูต่อไปจนหมดหลอด ว่าจะโอเคไหม ฮุๆๆ
หมดแล้วผลิตภัณฑ์ ที่ใช้มาทั้งหมด เราขอสรุปเป็นข้อๆให้อ่านตามนี้แล้วกันนะคะ
- ถ้าหวังผลความขาว ใช้ สารส้ม ยี่ห้อ เกรซ สูตรขมิ้น และโรลออน ยี่ห้อ Deodomin สูตรสีเหลืองสูตรขมิ้น อันนี้โอเคมาก กลางคืนให้ทาครีมโอเรียนทอล 3 เดือนน่าจะเห็นผล หรืออาจใช้ Ratin A ทาตอนกลางคืนแทนครีมโอเรียนทอล ก็น่าจะโอเค
- ควรใช้ครีมขัดรักแร้ เวลาอาบน้ำด้วย
- ถ้าหวังผลความขาว และระงับกลิ่นชัวร์ ใช้ Ratin A เบื้องต้น +สารส้ม ยี่ห้อ เกรซ สูตรขมิ้น และโรลออน ยี่ห้อ Deodomin สีเหลืองสูตรขมิ้น สเปรย์นีเวียทับที่เสื้อ ใช้ครีมขัดรักแร้ เวลาอาบน้ำ +กลางคืนทาครีมทารักแร้โอเรียนทอล หรือครีมทาหน้าของตัวเองที่ใช้อยู่
- ถ้าเป็นสาวกลิ่นแรงควรพกสเปรย์ระงับกลิ่นติดกระเป๋าไว้เสมอ
- เสื้อผ้าที่มีกลิ่นตุๆจากโรลออน คราบเหลืองบนเสื้อ ควรทิ้งนะคะ ถ้าคุณยังใส่ ยังไงกลิ่นตัวคุณก็จะมี ต่อให้ฉีดสเปรย์ทั้งกระป๋อง ก็มีเหมือนเดิม
- ผ้าชีฟอง ผ้าจอเจีย หรือผ้าโพลีเอสเตอร์ คือผ้าที่มันลื่นๆอ่ะค่ะ เราไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร ผ้าที่มันไม่ระบายอากาศ ใส่แล้วเหงื่อรักแร้ออกเยอะๆ สาวๆคนไหนกังวลเรื่องกลิ่น เลี่ยงได้ให้เลี่ยงนะ เราเคยแระ สเปรย์ยังเอาไม่อยู่อ่ะ เจ็บปวดมาก
- ปัจจุบันนี้เราใช้ ครีมขัดรักแร้โอเรียนทอล+ Deodomin+นีเวียสเปรย์ เราโอเคละ แบบรักแร้เราไม่ได้ขาวเท่าหน้านะ ฮ่า ๆ แต่เราพอใจมากแล้ว แค่ปื้นดำ ๆ หายไป เราก็โอเคมากๆแล้วแหละ
- ขอให้สาว ๆ ทุกคนโชคดี และค้นพบวิธีที่เหมาะกับตัวเองนะคะ บายยยยยย
ปล 1.ผลิตภัณฑ์ทุกสิ่งข้างต้น เราใช้มาเองหากสาวๆคนไหนอยากลองใช้ ควรทดสอบอาการแพ้ด้วยนะคะ สำหรับเราไม่เคยแพ้อะไรเลยใช้ได้ทุกสิ่งอย่าง
ปล 2.รูปทั้งหมดเอามาจากอินเตอร์เน็ตนะคะ เราไม่ได้ถ่ายเองและบางอย่างก็ไม่ได้ใช้แล้วก็ทิ้งขวดไปหมดแล้ว
ปล.3 เข้ามาเพิ่มเติม การใช้มีดโกน โกนขนรักแร้นะคะ ควรเลือกแบบที่มีแผ่นสีฟ้า หรือสีเขียว ที่เป็นคล้ายๆสารที่ช่วยหล่อลื่นด้วยนะคะ หรือบางยี่ห้อที่ทำมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะนะคะ อันนั้นมันจัช่วยให้เวลาโกนไม่ระคายเคือง และไม่บาดง่ายค่ะ บางคนที่บอกว่าโกนแล้วดำ อาจจะลองเปลี่ยนมีดโกนดูนะคะ มีดโกนที่ไม่มีสารหล่อลื่นมาด้วย โกนแล้วแสบรักแร้น่าดูทีเดียว
ขอบคุณ พันทิพ