สน.หัวหมากตามหาแท็กซี่ในคลิปหลอน - นักข่าวคนโพสต์เข้าให้ข้อมูลตร.แล้ว
จากคลิปหลอนกระฉ่อนเมือง นางสาวอรวรรณ เผือกไธสง ผู้สื่อข่าวรายการข่าวดังข้ามเวลา ทางสถานีโมเดิร์นไนน์ โพสต์คลิปลงเฟซบุ๊ก Orrawan Phuakthaisong โดยเป็นคลิปบันทึกภาพเหตุการณ์ช่วงกลางคืน บนถนนเส้นพระราม 9 ขณะที่น.ส.อรวรรณ กับผู้ช่วยช่างภาพนั่งอยู่ในรถและมองเห็นหญิงสาวผมยาวคนหนึ่ง ใส่เสื้อกล้ามลายขาวดำ และกางเกงขาสั้น ไปนั่งอยู่บนฝากระโปรงท้ายรถแท็กซี่โดยไม่ทราบสาเหตุ และเมื่อถึงจุดกลับรถ สาวรายนี้ก็พยายามชี้ไปตรงด้านหน้ารถ เหมือนขอความช่วยเหลือสักอย่าง จากนั้นรถก็คลาดกันไป
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ผู้สื่อข่าวกระปุกดอทคอม รายงานว่า คุณอรวรรณได้โพสต์แจ้งในเฟซบุ๊กเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า "รอให้ปากคำตำรวจพรุ่งนี้ค่ะ"
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงคืนวันอาทิตย์ โดยทางน.ส.อรวรรณนั่งรถข่าวออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกับผู้ช่วยช่างภาพ กระทั่งรถแล่นถึงจุดที่เห็นภาพในคลิป ในตอนแรก ทางนักข่าวสาวโมเดิร์นไนน์ก็ยังไม่แน่ใจว่าเห็นอะไรเป็นเงาตะคุ่มๆ เมื่อขับไปใกล้ๆ จึงเห็นเป็นสาวผมยาวนั่งอยู่ฝากระโปรงท้ายรถ พร้อมกับพยายามชี้ไปด้านหน้ารถแท็กซี่ ขณะที่ทางสน.หัวหมาก เจ้าของพื้นที่กำลังไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามหาแท็กซี่ดังกล่าวเพื่อหาที่มาว่าเกิดอะไรขึ้น
ล่าสุดวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า น.ส.อรวรรณ เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก เพื่อรวบรวมข้อมูลประกอบการสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
น.ส.อรวรรณ เปิดเผยหลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีออกชมพูแดง โดยขณะเกิดเหตุเป็นเวลา 18 นาฬิกา 30 นาที ของวันอาทิตน์ ที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งจากที่สังเกตเห็นคาดว่าหญิงสาวที่นั่งท้ายกระโปรงรถ มีท่าทางไม่ปกติ มองมาด้วยสายตาแข็ง และนั่งท้ายรถนิ่งมาก มีเพียงครั้งเดียว ที่แสดงท่าทีให้ผู้เห็นเหตุการณ์ขับไปปาดหน้ารถ และกลับไปนั่งนิ่งเรียบเฉยตามเดิม
ขณะที่ พ.ต.ท. นพพร ศรีสุชาติ รองผู้กำกับสน.หัวหมาก ได้ตั้งข้อสังเกตว่า จากการตรวจสอบคลิปมีบางจังหวะที่รถคันดังกล่าวชะลอความเร็วลง แต่หญิงสาวที่นั่งอยู่ท้ายรถก็ไม่มีท่าทีที่จะหนีลงจากรถ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมแจ้งข้อหาผู้ขับขี่ และหญิงสาวท้ายกระโปรงรถกระทำความผิดพ.ร.บ.จราจรทางบก ปี2522 / แต่ยังไม่ทราบเลขทะเบียนแน่ชัด อีกทั้งรถคันดังกล่าววิ่งมาในช่องทางขวา ใต้ทางด่วน ทำให้ไม่มีภาพวงจรปิดเพียงพอ
รองผู้กำกับสน.หัวหมาก ระบุอีกว่า คาดว่ารถเก๋งคันดังกล่าว น่าจะเคยเป็นรถแท็กซี่มาก่อน เนื่องจากสี และรุ่นของรถ คล้ายรถแบบที่ใช้เป็นแท็กซี่ ซึ่งทางตำรวจกำลังประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร และเอกชน ที่อาจจะถ่ายเห็นแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้ารถ เพื่อสืบหาเจ้าของรถ และหญิงสาวที่นั่งท้ายกระโปรงรถมาสอบปากคำต่อไป ทั้งนี้ หากมีผู้ใดทราบเบาะแสผู้ขับขี่ หรือหญิงคนดังกล่าว ให้รีบมาให้ปากคำกับตำรวจที่สน.หัวหมากทันที