โคตรเฮี้ยน!! หนุ่มใหญ่แก้ผ้าเปลื่อยเปล่าวิ่งร่ายรำกระเจิ้งเข้าป่ายาง พร้อมเผยข้อความสุดสยองขวัญ กู้ภัยวิ่งตามถึงกับผงะ!! เจอแบบนี้หลอนทั้งตำบล!?
หนุ่มเบลารุสคุ้มคลั่งคล้ายคนถูกของ โวยวายอ้างเห็นคนตายเต็มไปหมด แก้ผ้าวิ่งเข้าสวนยาง เจ้าหน้าที่ช่วยหากันวุ่น สุดท้ายพลเมืองดีพบเดินเปลือยริมถนนนำส่งรักษาตัว รพ.หลังก่อนหน้ากู้ภัยลองเอายันต์แปะตัว แล้วอาการสงบลง...
เมื่อเวลา 19.45 น.วันที่ 8 พ.ย.ร.ต.ท.นิโรธ บุญสิริ รอง.สวป.สภ.ถลางได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดอาการคุ้มคลั่งถอดเสื้อผ้าวิ่งเข้าสวนยาง ตรงข้ามปั๊มเชลล์ สาขาถลาง ถ.เทพกระษัตรี ต.ศรีสุนทร จึงประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตและกู้ชีพเทศบาลตำบลศรีสุนทรร่วมค้นหา ที่เกิดเหตุพบนายจอห์น (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ชาวเบลารุส ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่า
ทั้งนี้เพื่อนของนายจอห์น กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมนายจอห์น ได้ขับรถมาจากพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยจะเดินทางไปทำธุระใน อ.ถลาง เมื่อมาถึงบริเวณดังกล่าว นายจอห์น เพื่อนของตนได้เกิดมีอาการแปลกๆ จึงหยุดรถ ก่อนที่นายจอห์น จะส่งเสียงโวยวายพูดในทำนองว่าเห็นคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ก่อนจะถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกทิ้งแล้ววิ่งเข้าไปในสวนยาง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกว่า 10 นายออกค้นหา แต่ไม่พบ เนื่องจากมีพื้นที่กว้าง
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/777637
กระทั่งเวลาผ่านไปราว 40 นาที ศูนย์วิทยุ สภ.ถลางได้รับแจ้งจาก นายมงคลพัฒน์ ภูพันนา อายุ 34 ปี พบชายชาวต่างชาติไม่สวมเสื้อผ้าเดินอยู่ริมถนนใกล้กับจุดที่สูญหาย โดยได้พยายามขับรถตาม เพื่อสอบถาม แต่พูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงรุดไปตรวจสอบ พบนายจอห์นอยู่ในอาการคุ้มคลั่ง จนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ต่างพูดว่ามีอาการคล้ายกับคนถูกของเข้าหรือมีบางอย่างสิงอยู่ในตัว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงได้ทดลองนำของขลังต่างๆ เท่าที่มีติดตัวไปลองแขวนตามร่างกายของนายจอห์น เช่น สร้อยปะคำ ผ้ายันต์ ซึ่งได้ผล โดยทำให้อาการสงบลง จึงพาตัวส่ง รพ.ถลาง เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายและสภาพจิต รวมถึงตรวจหาสารเสพติด ซึ่งล่าสุดยังพูดจาวกวน
สอบถามเพิ่มเติมจากเพื่อนของนายจอห์น ทราบว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายจอห์นได้ไปเที่ยวยังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และกลับมาก็มีอาการดังกล่าว แต่ไม่รุนแรง จนกระทั่งวันนี้ตนได้ชวนมาทำธุระก็เกิดอาการดังกล่าวขึ้นอีก จากนี้จะให้เพื่อนอีกคนซึ่งอาศัยอยู่ใน ต.ฉลอง อ.เมืองดูแลอาการต่อ ส่วนตนต้องเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพื่อทำธุระ.
(ภาพจากกู้ชีพเทศบาลตำบลศรีสุนทร)