เฟซบุ๊กเพจ "สมองไหล Bychix" เผยเเพร่เรื่องราวอุทาหรณ์การดูเเลรักษาความปลอดภัยของบ้านพักรีสอร์ทหรูเเห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ภายหลังถูกมิจฉาชีพขโมยคอมพิวเตอร์ไปอย่างน่าสงสัย โดยประเด็นที่ทำเอาเจ้าตัวหัวเสียก็คือ เมื่อเดินทางเข้าเเจ้งความที่สถานีตำรวจ เจ้าหน้าได้ที่หลายรายต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สถานที่พักดังกล่าว มักถูกมิจฉาชีพขโมยของเป็นประจำ โดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างชาติ ซึ่งทำให้ตนรู้สึกไม่พอใจการจัดการของที่พักเเห่งนี้มาก เนื่องจากผ่านประสบการณ์กับเหตุร้ายอย่างบ่อยครั้ง เเต่กลับมีกล้องวงจรปิดเพียงตัวเดียวเท่านั้น โดยติดตั้งอยู่บริเวณหน้าป้อมยามรักษาความปลอดภัย 

"แจ้งเตือน โรงแรมโจรชุม แหล่งเชือดนักท่องเที่ยวตัวยง"
(อัพเดท โพสต์ 3/11/59) หลังจากที่โพสต์ไปรอบแรกแล้วนั้น
ถ้าได้อ่านคอมเมนท์แล้ว ดุเดือดมากๆครับจากผู้เสียมากมายที่เข้ามาตอบไว้
ที่เข้ามาส่งเรื่องความเสียหายและเดือดร้อนจากที่พักแห่งนี้กันอย่างมากมายเลยครับ

สิ่งที่ผมรวบรวมข้อมูลมาได้เพิ่มเติมจากที่ผมเขียนตามคอมเมนท์ต่างๆนั้น
ก็เอามาสรุปเหตุเลวร้ายที่เกิดกับแขกผู้มาพักมาได้เป็นหลักๆหลายข้อตามนี้เลยครับ

1.โดนขโมยของ ซึ่งมีรูปถ่ายหลักฐานจากแขกท่านหนึ่ง มาเป็นผีมือพวกแม่บ้านครับ
เพราะแทบทุกรายเจอเหมือนกันเลย ว่าผลีผลามเข้ามาทำความสะอาดกันตั้งแต่ก่อนเที่ยง โดยที่ไม่มีการขออนุญาติจากแขกผู้มาพัก จะถือวิสาสะเอากุญแจไขเข้ามาในบ้านเองเลย (แม่บ้านที่นี่สืบรู้มาว่า ส่วนใหญ่เป็นคนเขมรครับ)

2.จองห้องไว้ แต่พอไปถึงโดนกันแทบทุกราย ว่าให้เปลี่ยนเป็นอีกห้องหนึ่งที่ดูแย่กว่าในรุปที่จองไว้เยอะ ผมไม่รู้สาเหตุนะครับว่าเพราะอะไร แต่เท่าที่ผมประเมินดูแล้ว บ้านหลังที่บังคับให้ย้า่ยใหม่นั้น น่าจะราคาถูกกว่าที่จอง แขกหลายๆท่านจำใจ เพราะมาถึงที่แล้วก็เหมือนต้องโดนบังคับว่าให้ต้องเอาห้องใหม่ไว้เพราะจ่ายเงินไปแล้ว เด๋วไม่มีที่พัก จากข้อมูลคือจะได้บ้านที่เล็กกว่า ซึ่งส่วนนี้อาจจะเป็นไปได้ครับ ที่พวกพนักงานวางแผนไว้ เพื่อกินส่วนต่างของราคาที่พักกันเองภายใน

3.ตอนเช็คเอาท์จะชอบมั่วว่า ของในตู้เย็นไม่ครบ แก้วหาย ของตกแต่งในบ้านหาย และเรียกเก็บเงินเพิ่มครับ

หลักๆผมรวบรวมมาได้3ข้อใหญ่นี้จากข้อมูลต่างๆที่ตอบมาทางคอมเมนท์ในโพสต์นี้

-----------------------------------------------------------------------

***และนี่เป็นเรือ่งที่ผมเขียนไว้เมือ่วันที่ 31/10/59ครับ****

ไปเที่ยวพักผ่อนแล้วโดนขโมยของ
ผมไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเหมือนผมอีก
จากที่พักที่ไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ !!!
จนที่พักแห่งนี้ กลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของโจรขโมยไปแล้วครับ

เริ่มจากเมือ่วันศุกร์ที่ผ่าน(28/10/59)
ผมกับเพื่อนได้เปิดบ้านพักหลังใหญ่เพื่อไปเที่ยวพักผ่อนกัน
บ้านสวย บรรยากาศีดครับ แต่ใครจะรู้
ว่าภายใต้ความน่าอภิรมย์ตรงนี้ มันมีสิ่งเลวร้ายซ่อนอยุ่
และที่ผมนำมาเล่าในวันนี้ ก็เพื่อสิ่งเดียวเลย
คือ..ไม่อยากให้ใครมาเที่ยวแล้วเดือดร้อนแบบนี้อีก

เหตุเกิดเมื่อคืนวันเสาร์ถัดมา
กลุ่มที่ผมไปก็ได้มีการกินดื่ม ดูฟุตบอลถ่ายสดกันไปถึงตี5
โดยทีเ่ปิดบ้านไว้สองหลัง โดยที่เพื่อนอีกกลุ่มนึง
ก็กินดื่มกันถึงประมาณตี5 เช่นกัน
เมื่อผมตื่นขึ้นมาในวันถัดไป
ก็ได้ยินเสียงเจี้ยวจ้าวๆจากเพื่อนผมจากข้างล่าง
ที่ฟังดูแล้วเหมือนเกิดเหตุอะไรขึ้น
ก็เลยทราบว่า..คอมพิวเตอร์จากบ้านเพื่อนอีกกลุ่มโดนขโมยหายไป
เมื่อได้ยินเช่นนี้สิ่งที่แรกที่ผม มองไปก็คือ คอมพิวเตอร์ของผมยังอยุ่มั๊ย
และก็ถึงกับใจวูบเลยครับ เมื่อเห็นคอมตัวเองไม่ได้อยุ่ที่เดิม
ก็พยายามหาอยุ่นานครับ หาจนแน่ใจแล้วว่าต้องโดนขโมยไปเช่นกัน

เมื่อทบทวนเหตุการ์ณดูแล้วนั้น
เหตุน่าจะเกิดอย่างอุกอาจ ที่น่าจะมาเข้ามาขโมย ในช่วงเวลาหลังตี5
เพราะเจ้าของเครื่องทั้งผมและอีกคน
แน่ใจมากๆครับ ว่าของอยุ่กับที่เดิมมาตลอดจนเข้านอนกัน
แสดงว่าโจรที่มาขโมย คงวางแผนและซุ่มดูความเป็นไปมาเป็นอย่างดี
ว่าบ้านทั้งสองหลังกินเหล้ากันหนักขนาดนี้
คงเมาหลับกันไม่รุ้เรื่องแน่ๆ
และไม่อยากจะเชื่อครับ ว่าบ้านอยู่กันคนเยอะขนาดนี้
ประมาณบ้านหลังนึงอยุ่กันถึง 10คนนั้น โจรมันอย่างกล้าเข้ามา
โดยที่บ้านหลังที่ผมอยู่นั้น ก็แค่ล็อคประตูทางเข้าบ้านด้านนอกไว้
แต่บ้านผม ผมอยู่เป็นคนสุดท้าย แต่ไม่ได้ล็อคประตูในบ้านไว้
(แต่บ้านอีกหลัง เพื่อนผมยืนยันว่าล็อคประตูทั้งในและนอกบ้านไว้แน่นอน)

เรื่องนี้พอผมแจ้งพนักดูแลรีสอร์ทมาทราบเรื่อง
ก็ได้ทำความแจ้งความประสานให้ตำรวจมาดูที่เกิดเหตุ
พวกเจ้าหน้าที่ที่พักนั้น ก็ดูไม่ตื่นตระหนกกันมากนะ
แต่พอตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุแล้ว
สิ่งแรกที่ตำรวจพูดกับพวกเจ้าหน้าที่ที่พักว่า
"พวกคุณไม่รุ้หรอ ว่าเกิดเหตุแบบนี้ ไม่ควรทำความสะอาดบ้าน"
เพราะจะทำให้เช็ครอยนิ้วมือได้ลำบากมากๆ
จากนั้นตำรวจและสายสืบก็สอบถามข้อมูลกันไป
แล้วเชิญผมมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ เมืองพัทยา
เมื่อไปถึงที่นั่น ตำรวจหลายๆคนที่ทราบเหตุการณ์
ล้วนต่างบอกกันว่า..ที่นี่อะ โดนขโมยของเป็นประจำ
แต่ที่โดนส่วนใหญ่ จะเป็นพวกนักท่องเที่ยวต่างชาติ

จึงทำให้ผมไม่พอใจกับที่พักแห่งนี้มากๆครับ
ว่าเกิดเหตุขนาดนี้แล้ว ทำไมในบริเวณที่พัก
ถึงไม่มีกล้องวงจรปิดไว้เลย
ถามพนักงาน ก็บอกว่ามีกล้องตัวเดียวที่หน้าป้อมยาม
อื้อหืออออออออออ..นี่ขนาดเกิดเหตุขโมยของบ่อยขนาดนี้
ทางที่พัก..ยังไม่คิดจะปรับปรุงตรงนี้เลยหรืองัยฟะ
เรื่องแบบนี้ มันไม่ใช่แค่เรื่องของหายนะครับ
แต่มันยังส่งผลไปถึงความปลอดภัยในชีวิตของแขกผู้มาพักด้วย
ถ้าเกิดอุกอาจเข้ามา มีแต่ผู้หญิงและเด็กเล็กตื่นมาพบเหตุการ์ณเข้า
เรื่องที่ร้ายแรงกว่านี้ อาจจะเกิดขึ้นก็ได้นะครับ

ค่าทีพักคืนนึง คืนนึงที่ผมจ่ายไป คืนละ20000กว่าบาท
ไม่ได้จ่ายกันถูกๆนะครับ การจ่ายขนาดนี้
ผู้มาพัก ไม่ได้นึกถึงแค่ความสะดวกสบาย
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ก็คือสิ่งสำคัญยิ่งกว่าอีก
ไม่มีกล้องวงจรปิด แถมไม่ได้ลายนิ้วมือ
สถานที่พัก ก็เมินเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
คอมหาย มูลค่ามันไม่เท่าไหร่หรอกครับ
แต่ข้อมูลงานสำคัญๆที่ผมเก็บไว้ในเครื่อง
บอกเลย..สูญเสียในส่วนนี้ไป ผมเสียหายหนักมากๆ

เรื่องนี้ใครอยากรู้ไปถาม สภ เมืองพัทยาดูได้
ตำรวจที่นี่เค้ารุ้กิตติศัพท์ ที่พักนี้ดีกันแทบทุกคน
ในเมื่อเรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับผมแล้ว
ผมจะไม่ยอมเงียบเฉย
อย่างน้อยผมหวังว่าสิ่งที่บอกบอกกล่าววันนี้
จะได้รับการแชร์ไปให้มากที่สุด
เพื่อไม่ให้ใครต้องตกมาเป็นเหยื่อจากที่พักแห่งนี้อีกครับ

ผมพอจะหา รีวิวของแขกท่านอื่นที่เป็นชาวต่างชาติมาได้ตามที่เห็น
แต่เชื่อว่า...ยังมีแขกท่านอื่นอีกมากมายครับ
ที่ต้องตกเป็นเหยื่อ จากที่พักที่ไม่สนใจความเป็นอยู่ลูกค้าแบบนี้อย่างแน่นอน

ที่ผมออกมาต่อสู้เรือ่งนี้ ไม่หวังจะได้macbookคืน ไม่ได้ทำเพราะความแค้นหรือสะใจ แต่ที่ต้องแชร์เรือ่งนี้ เพราะเรามีศักยาภาพที่ทำได้ ผมแค่สงสารเหยื่อรายต่อๆไปในอนาคต โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ต้องกลับประเทศตัวเองอย่างเจ็บช้ำ และไม่มีเวลาพอที่จะแจ้งความเอาเรื่องได้ต่อเพราะต้องกลับไปประเทศตนเอง และหวังว่าพลังโซเชียลที่เกิดขึ้น จะมีแรงพอที่ทำให้ผู้บริหารที่พักแห่งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ในการดูแลความปลอดภัยของแขกผู้มาพักครับ

ชื่อที่พักนะครับ VIP villas pattaya palm oasis

CR . สมองไหล Bychix และ Sirichoke Chix Valapol