มาดูกัน 13 เมืองสยอง สถานที่เฮี้ยน อาถรรพ์ที่สุดในโลก!!

มาดูกัน 13 เมืองสยอง สถานที่เฮี้ยน อาถรรพ์ที่สุดในโลก!!

คำถามคาใจตั้งแต่เกิดมาจนถึงทุกวันนี้คือ “ผีมีจริงหรือไม่ ?” บางคนก็บอกว่าเคยเจอ บางคนพยายามยังไงก็ไม่เจอ สถานที่ต่างๆ ที่ร่ำลือกันว่าขึ้นชื่อเรื่องผีดุนั้น มีจริงๆ หรือเปล่า ตามมาพิสูจน์กันได้ใน 13 เมืองอาถรรพ์ที่ผีดุที่สุดขึ้นชื่อไปทั่วโลก ลองมาดูกันว่า แต่ละที่นั้นมีความเป็นมาที่น่าขนหัวลุกขนาดไหน !!

1. เชอร์โนบิล (Chernobyl) เมืองพริเพียต ประเทศยูเครน

เป็นเมืองที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมช็อคโลกที่เรียกได้ว่า รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก นั่นคือการระเบิดของ “เชอร์โนบิล” โรงงานนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 1986 หรือเมื่อ 27 ปีก่อน จัดอันดับความรุนแรงไว้ที่ระดับ 7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตามมาตราระหว่างประเทศว่าด้วยเหตุการณ์ทางนิวเคลียร์ ปริมาณกัมมันตรังสีรุนแรงกว่าระเบิดปรมาณูที่ถล่มเกาะฮิโรชิม่าในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึง 4 เท่า และต้องใช้เวลาถึง 24,000 ปี กว่าจะสามารถกลับมาอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย 

ผลจากการระเบิดทำให้เกิดขี้เถ้าปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีพวยพุ่งขึ้นสู่บรรยากาศ ปกคลุมทางตะวันตกของสหภาพโซเวียต ยุโรปตะวันออก ยุโรปตะวันตก ยุโรปเหนือทางการยูเครน เบลารุส และรัสเซีย ทำให้มีเหยื่อทั้งสังเวยชีวิต ป่วยเป็นโรคมะเร็ง กลายพันธุ์ผ่าเหล่า หรือพิการไปเป็นจำนวนมาก ผลการจากระเบิดทำให้ต้องอพยพประชากรมากกว่า 336,000 คน ออกจากพื้นที่อย่าง มีผู้เสียชีวิต 4,000 คน ผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งจากการสัมผัสกัมมันตรังสีจนร่างกายผิดปกติไม่เหลือเค้ามนุษย์สูงถึง 600,000 คน  

2. หอคอยแห่งลอนดอน (Tower of London) ประเทศอังกฤษ

 

เป็นพระราชวังหลวง และป้อมปราการ ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเทมส์ของกรุงลอนดอนในประเทศอังกฤษ เป็นพระราชวังที่เดิมสร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1078 ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ผีดุที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก หอคอยเคยใช้เป็นป้อมที่ขังนักโทษที่มียศศักดิ์สูง และยังเป็นสถานที่สำหรับประหารชีวิต และทรมานนักโทษอีกด้วย 

วิญญาณที่เล่าขานกันว่ามาปรากฎให้เห็นบ่อยๆ ที่หอคอยแห่งลอนดอนคือ วิญญาณของพระนางแอนน์ โบลินน์ มเหสีองค์ที่ 2 ในพระเจ้าเฮนรี่ที่แปด ซึ่งถูกประหารชีวิตฐานนอกพระทัยพระเจ้าเฮนรี่ ว่ากันว่าตอนประหารพระนาง เพชฌฆาตยกพระเศียรขึ้นชู พระเนตรของพระนางยังคงลืมอยู่ และพระโอษฐ์ก็ขมุบขมิบ ผู้คนที่ไปดูการประหารเชื่อว่าพระนางทรงสาปแช่ง ทำให้บางครั้งหลายคนมักเห็นพระนางมาปรากฏกายให้เห็นแบบผีหัวขาด เคยมีทหารยามเห็ยผู้หญิงสวมผ้าคลุมศีรษะเดินเล่นริมระเบียงที่ถูกปิดตาย แต่มีลักษณะหิ้วศีรษะไว้ในมือ ไม่ก็จะได้ยินเสียงลากโซ่ตรวนในห้องประหารแล้วกรีดร้องจนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงมีเหตุการณ์แปลกๆ ให้เห็นทุกคืน

3. เมืองนิวส์ออร์ลีน (New Orleans) รัฐหลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา

นิวส์ออร์ลีน เป็นเมืองท่าสำคัญของสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่รู้จักในสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสอันโดดเด่น และยังขึ้นชื่อที่สุดในอเมริกาเรื่องผีดุ ชาวเมืองต่างเคยได้ยินเรื่องเล่าหรือได้เห็นสิ่งประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวในสารพัดรูปแบบทั้ง เรื่องการตายของคนจำนวนมาก หลุมศพที่มีให้เห็นกลาดเกลื่อน ผีดูดเลือด ไปจนถึงลัทธิพ่อมดหมอผีวูดู นั่นเพราะเคยมีโรคระบาดร้ายแรง อหิวา และไข้เหลืองที่คร่าชีวิตชาวเมืองไปทีละหมื่น  แ่ต่ผีที่หลายคนรู้จักก็คือ มารี ลาโว ผู้นำลัทธิวูดูที่มีชื่อเสียงในปี 1800 ที่ไ้ด้รับความศรัทธาอย่างแรงกล้าของที่นี่ กล่าวกันว่าเธอทราบความเคลื่อนไหวทั้งหมด และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองได้ง่ายๆ เธอทำให้ผู้คนในลัทธิหันมานับถือพระแม่มารี และยังนำพิธีปฏิบัติของชาวแคทอลิคเข้ามาใช้ในลัทธิวูดู   ทุกวันนี้อิทธิพลของมารีและลูกสาวที่มีต่อเงามืดแห่งลัทธิวูดูในเมืองนิวออร์ลีนยังไม่จางหายไป ทั้งคู่ถูกฝังคู่กันในสุสาน 2 ชั้นทำจากหินสีขาว ที่แท่นฝังศพหมายเลข 1 ในสุสานเซนต์หลุยส์

ส่วนสถานที่แห่งผีดุของที่นี่ก็คือ บ้านหรูหราซึ่งเป็นสมบัติตกทอดของเดลฟีน ลอรี่  ในปี 1831 เธอเป็นสาวอเมริกันชั้นสูง และน่าจะเป็นฆาตรกรต่อเนื่อง ว่ากันว่าเธอทรมาน ทำให้พิการ และฆ่าทาสตายไปกว่า100 ศพ จนกระทั่งในปี 1834 ได้เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น เมื่อนักดับเพลิงเข้าไปก็พบทาสทั้งชาย และหญิงถูกล่ามโซ่บ้าง ขังในกรงสุนับบ้าง บางคนถูกทำให้เสียโฉม บางคนถูกตัดทั้งแขน และขา อีกจำนวนหนึ่งถูกเย็บปากติดกันเพื่อให้อดอาหารตาย แต่เํธอคนนี้กลับรอดพ้นจากความผิด เพราะเธอมีญาติเป็นผู้ว่าที่ร่ำรวย แต่ที่แน่ๆ คฤหาสน์ดังกล่าวได้มีสิ่งที่หลายคนพบเห็นในตัวบ้านเช่น วิญญาณหลอนพร้อมทั้งเสียงกรีดร้อง และเสียงหวดของแส้เป็นระยะๆ

4. ฮาชิมะ เกาะร้าง ประเทศญี่ปุ่น 

เกาะฮาชิมะนี้ ตั้งอยู่ที่จังหวัดนางาซากิ เป็นเกาะกลางทะเลที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ที่นี่ถือได้ว่ามีชื่อเสียงติดอับดับต้นๆ ของโลกในฐานะ 1 ใน 5 เกาะที่หลอนที่สุดในโลก เกาะแห่งนี้เป็นเหมือนกับสถานที่คุมขังนักโทษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์แรงงานชาวจีน และเกาหลีใต้ที่เป็นจำเลยช่วงสงครามมาทำงานในเหมืองถ่านหิน ต่อมาบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างมิตซูบิชิซื้อเกาะดังกล่าว และพัฒนาเป็นเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ และได้ปิดลง เนื่องจากพลังงานจากถ่านหินไม่ได้เป็นที่ต้องการของญี่ปุ่นอีกต่อไป และอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ 

ปัจจุบันเกาะฮาชิมะ ได้กลายเป็นสถานที่รกร้างปราศสิ่งมีชีวิต ที่ไม่มีแม้กระทั่งต้นไม้ หรือดอกไม้ขึ้นอยู่ เกาะฮาชิมะเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือเรื่อง "Battle Royale" ในระหว่างการถ่ายทำได้พบสิ่งผิดปกติอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะพบคนอื่นที่ไม่ใช่ทีมงานถูกถ่ายติดเข้ามาในฉาก หรือ ฟิล์มเสียทั้งๆ ที่เพิ่งใช้งาน และเหตุการณ์ที่ผวาที่สุดในกองถ่าย จนทำให้กองถ่ายต้องหยุดพักอยู่เป็นอาทิตย์ ก็คือ ชิอากิ คูริยามา นักแสดงหญิงคนหนึ่ง ซึ่งรับบทเป็นนักเรียนได้เข้าฉาก และเธอได้ถูกบางสิ่งบางอย่างครอบงำตัวเธอ จนต้องเชิญมิโกะหญิงที่เดินทางมาด้วย จัดการขับไล่วิญญาณร้ายจนสำเร็จ

หลังจากวิญญาณนั้นออกจากร่าง เธอบอกว่า "สถานที่นี้มีดวงวิญญาณที่มีความอาฆาตแค้นอยู่มาก และยากที่จะขจัดออกไปได้ เพราะที่ตรงนี้ คือสถานที่ของพวกเขา"

5. เมือง ออร่าดูร์-ซู-แกน (Abandoned City & Commune of Oradour) ประเทศฝรั่งเศส

เมืองร้างแห่งนี้โดนทำลายโดยกองทัพของเยอรมนีในปี ค.ศ.1944 มีชาวบ้านถูกสังหารหมู่ที่นี่อย่างโหดเหี้ยมไปถึง 642 ศพ นายทหารเยอรมันผู้หนึ่งเปิดเผยว่า เด็กๆ และผู้หญิงที่ถูกต้อนเข้าไปในโบสถ์ราวกับฝูงแกะ และถูกเผาทั้งเป็น ส่วนผู้ชายก็ถูกทรมานด้วยการยิงที่ขา ให้ตายอย่างช้าๆ ในโรงนา

ปัจจุบันที่นี่ยังคงเป็นเมืองร้าง ชาวเมืองได้ย้ายไปอาศัยอยู่ในเมืองใกล้ๆ แม้จะมีการสร้างเมืองนี้ขึ้นมาใหม่ แต่ที่นี่ก็ยังคงขึ้นชื่อเรื่องความเฮี้ยนจนไม่มีใครกล้าเข้าไปอยู่ดี

6. เมืองคีย์ เวสต์ ฟลอริดา (Key West Florida) ประเทศสหรัฐอเมริกา

เมืองคีย์ เวสต์ ฟลอริด้า เป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีตำนานเรื่องผีมากมาย เพราะเมืองนี้เคยเป็นเมืองแห่งสมรภูมิสงครามกลางเมือง เกาะโจรสลัด และอาชญากรอื่นๆ สถานที่เก็บศพ และเป็นสถานที่ที่นิยมของพวกชอบเรื่องราวลึกลับมากมาย

ความสยองของเมืองนี้ที่รู้จักกันดีก็คือ ตุ๊กตาผีสิง "โรเบิร์ด" ที่มีอายุกว่า 105 ปี โดยเล่ากันว่ามันเป็นของขวัญของลูกโรเบิร์ด ยูจีน ออตโต เมื่อปี 1904 โดยเชื่อว่าตุ๊กตาดังกล่าวต้องมนต์คำวูดูของคนใช้ที่ไม่พอใจตระกูลนี้ โดยคนในครอบครัวโรเบิร์ดอ้างว่าระหว่างอยู่กับตุ๊กตา เขาได้ยินตุ๊กตาพูดได้ เดินได้ ชอบทำของเล่น และของใช้ในบ้านเสียหายอยู่เสมอ นอกจากนั้นยังมีความคิดที่จะฆ่าเขาด้วย จนในที่สุดตุ๊กตาดังกล่าวจึงถูกเก็บไ้ว้ในห้องใต้หลังคา หลังจากที่ยูจีนเสียชีวิตในปี 1974 ครอบครัวใหม่ก็มาซื้อบ้านหลังดังกล่าว และได้ยินเสียงตุ๊กตากรีดร้อง และเิดินเข้ามาทำร้ายลูกสาวของเขา

7. เมืองซางจี (San Zhi) ประเทศไต้หวัน 

ความอาถรรพ์ของเมืองนี้เริ่มจาก ดีไซน์อันแปลกประหลาดของอาคารต่างๆ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้างที่คร่าชีวิตคนงานไปหลายคนจนถึงกับต้องหยุดการก่อสร้างไปหลายครั้ง  และเหตุการณ์สุดประหลาดที่มีคนอ้างว่าเห็นส่วนต่างๆ ของบ้านเคลื่อนไหวไปมาได้เองชวนขนลุก

ถึงแม้ผู้สร้างที่นี่จะพยายามสร้างหมู่บ้านนี้ให้เป็นที่พักในวันหยุด เป็นบ้านพักที่อยู่บนน้ำได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างก็ดันมีปัญหาในตอนสุดท้ายอีกจนได้ ชาวบ้านในละแวกนั้นเชื่อว่า สถานที่ตั้งแห่งนั้นมีอาถรรพ์เลยทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาอีก

8. เมืองคราโค่ (Craco) ประเทศอิตาลี

เมืองร้างที่ถูกล้อมด้วยกำแพงในยุคกลางของเมืองคราโค่ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 400 ฟุต เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า “ต้องคำสาป” ด้วยภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งที่ทำให้ผลิตผลทางการเกษตรไม่ดี การถูกโจรปล้นบ้านเรือน และสุดท้าย การเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่หลายครั้งติดกัน ทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปมากมาย และเสียหายเกินกว่าที่จะได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ ประชากรกลุ่มสุดท้ายได้อพยพออกไป เพราะเกรงกลัวแผ่นดินไหว ในที่สุดทำให้เมืองล่มสลายลงใน ปี 1960

9. เมืองเกตตีสเบิร์ก (Gettysburg)  รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

เป็นที่รู้จักในแง่ของแหล่งท่องเที่ยวที่คงความสยองเมื่อนึกถึง เนื่องจากปี 1863 นั้น ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของสงครามกลางเมืองอเมริกา โดยเป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายสหรัฐอเมริกา นำโดยนายพลจอร์จ กอร์ดอน มีด กับฝ่ายสมาพันธรัฐอเมริกา นำโดยนายพลโรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด ลี การปะทะกันกินเวลาทั้งสิ้น 3 วัน ยุทธการดังกล่าวนับว่าเป็นสมรภูมิที่นองเลือดมากแห่งหนึ่งในสงครามกลางเมืองอเมริกา โดยมียอดผู้เสียชีวิตเกือบ 10,000 คน และบาดเจ็บอีกเกือบ 30,000 คน

ทุกวันนี้ยังมีเรื่องน่าขนลุก ไม่ว่าจะเป็นบ้านร้าง สวนสาธารณะ หลายคนเคยได้ยินเสียงผีทหารที่ตายในสนามรบร้องครางด้วยความโหยหวน 

10. โรงพยาบาลทหาร Beelitz (Hospital Beelitz Heilstaetten) เมืองพอทสดัม ประเทศเยอรมนี 

Hospital Beelitz Heilstaetten โรงพยาบาลสยองที่ในอดีต อด็อฟ ฮิตเลอร์ เคยถูกนำตัวมารักษาที่นี่หลังจากโดนยิงในสงคราม Sommer  ปัจจุบันกลายเป็นโรงพยาบาลที่ถูกปล่อยให้รกร้าง ไร้ซึ่งการดูแลจากที่เคยดูแลรักษาผู้ป่วยกลับกลายมาเป็นที่สร้างความหลอน และยังคงกล่าวขานถึงความน่ากลัว เสียงหวีดร้อง ที่ดังก้องออกมาจากโรงพยาบาลแห่งนี้

11. นิวมะนิลา เมืองเกซอน (New Manila, Quezon City) ประเทศฟิลิปปินส์

พื้นที่บริเวณ Balete Drive นิวมะนิลา เมืองเกซอน ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เรียกได้ว่าพื้นที่ต้องสาปเลยทีเดียว เพราะที่นี้เต็มไปด้วยเรื่องผีมากมาย เช่น ต้นไทรคำสาป, บ้านผีสิง (สร้างตั้งแต่ยุคสเปน 1800) และที่น่ากลัวที่สุดคือผีที่ปรากฏที่กลางถนน และสร้างความหายนะแก่ผู้คน นั่นก็คือหญิงในชุดขาวที่เล่ากันว่าเธอถูกข่มขืน และฆ่าโดยทหารญี่ปุ่นในสงครามโลก 

โดยเธอมักปรากฏตัวในรูปของผู้หญิงใส่ชุดสีขาว ผมดำยาวไร้หน้า และยืนเลือดท่วมอยู่กลางถนนตอนกลางคืน จนมีคำแนะนำว่าให้ผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงถนนในเวลากลางคืน โดยเฉพาะหากขับรถมาคนเดียว หากจำเป็นก็อย่ามองด้านหลังที่กระจก ไม่เช่นนั้นผีจะขึ้นรถในสภาพเลือดท่วม และสร้างหายนะกับผู้ขับขี่

12. เมืองซาวานนาห์ (Savannah) รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

ดูผิวเผินก็น่าขนลุกแล้วสำหรับที่นี่ เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสุสานป่าช้าจำนวนมาก อีกทั้งยังมีคฤหาสน์ และบ้านเก่าๆ มากมาย สถานที่ที่กล่าวขายกันว่ามีผีสิงอยู่ก็คือ บ้านสามชั้นซึ่งสร้างในปี 1796 เคยเป็นที่พักของบุคคลสำคัญท่านหนึ่งแต่ถูกซื้อไปเพื่อสร้างต่อเติมใหม่ให้เป็นแมนชั่น แต่ระหว่างการก่อสร้างนั้นเอง เกิดอุบัติเหตุหลังคาบ้านถล่มทับคนงานเสียชีวิต และนี่คือที่มาของความหลอน เพราะผู้คนมักได้ยินเสียงคนเดิน และเสียประหลาดอยู่เสมอ อีกทั้งยังเห็นชิ้นส่วนในตัวบ้านลอยผ่านหน้าไปยังอีกจุดหนึ่ง หรือบางทีก็จะเห็นชายชุดสูทสีดำยืนจ้องมองมาก่อนที่จะหายไป 

13. นครบันดุง (Bandung) ประเทศอินโดนีเซีย

ปัจจุบันที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหญ่อีกแห่งของประเทศอินโดนีเซีย ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 525 ปี แต่อีกมุมหนึ่งด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้นเองทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีเรื่องเล่า ตำนานสยองขวัญมากมาย และที่สุดเฮี้ยนที่สุดก็คือ สวนป่าอนุรักษ์จูอันดา ที่เคยถูกทหารญี่ปุ่นใช้เป็นที่ทรมานนักโทษ และเชลยศึกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่ากันว่า เคยมีคนพบเห็นวิญญาณของผู้เสียชีวิตยังวนเวียนหลอกหลอนนักท่องเที่ยวอยู่เสมอจนถึงทุกวันนี้