10 หนัง “สร้างแรงบันดาลใจ” ดูแล้วมีพลัง ต้องดูสักครั้งในชีวิต
การดูภาพยนตร์ หรือสารคดี นอกจากให้ความบันเทิง แล้วยังสามารถช่วยพัฒนาความสามารถทั้งด้านความคิด และสร้างแรงบันดาลใจ ตัวละครในหนังยังสามารถเป็นแบบอย่างให้ปฏิบัติตามอีกด้วย เพราะบ่อยครั้งภาพยนตร์มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ อัตชีวประวัติของคนที่มีชื่อเสียง หรือเรื่องราวของการฟันฝ่าอุปสรรคที่อย่างน่าชื่นชม
แต่หนังก็เหมือนกับหนังสือที่มีเยอะแยะมากมาย 10 หนังสือพัฒนาตนเอง คนคิดใหญ่ต้องอ่าน
กว่าจะหาหนังที่สนุก สร้างแรงบันดาลใจได้ชนิดอยากลุกออกไปลงมือทำทันที คงต้องเสียเวลาไม่ใช่น้อย ผมจึงขอหยิบ 10 หนังภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม เหมาะกับคนที่มีความฝัน อยากทำธุรกิจ อยากมีชีวิตที่ดี มานำเสิร์ฟให้อย่างสุดฝีมือครับ
**หมายเหตุ ลำดับหนังที่นำเสนอไม่ใช่การจัดอันดับ
1.Priceless (ยอดชาย นายยาจก)
หนังซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องนี้ ออกฉายในปี 2012 โดยได้นักแสดงฝีมือเยี่ยมอย่าง ทาคูยะ คิมูระ มาแสดงนำ โดยเนื้อเรื่องเกี่ยวกับพระเอกที่ชื่อฟูมิโอะ คินดะอิจิที่ตกงานแบบไม่คาดคิด ซ้ำยังต้องไร้ที่อยู่ ถังแตก
แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนจิตใจดี ทำให้พบเจอกับคนมากมาย ตลอดระยะเวลาแห่งการเดินทางผ่านชะตากรรมอันยากลำบาก
หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้สนุก และมีอารมณ์ขัน ดูแล้วไม่เครียด อมยิ้มได้ตลอด ท้ายที่สุดชะตากรรมของคินดะอิจิจะเป็นอย่างไร แนะนำให้ติดตามครับ
2.The Shawshank Redemption
หนังเรื่องนี้ถือเป็นสุดยอดหนังสร้างแรงบันดาลใจขึ้นหิ้งเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
The Shawshank Redemption ถูกฉายในปี 1994 เขียน และกำกับโดย แฟรงก์ ดาราบอนต์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับหนุ่มนายธนาคารที่ถูกจำคุก หลังจากถูกใส่ความว่าเป็นผู้ลงมือฆาตกรรมภรรยาของตน พร้อมกับชู้รักของภรรยา
การดำเนินชีวิตในคุกค่อนข้างยากลำบาก ต้องเผชิญกับผู้คุมขัง และนักโทษที่พร้อมจะเล่นงานเขาทุกเมื่อ สิ่งเดียวที่ยังคงเหลืออยู่คือความหวัง
เรื่องราวในหนังเรื่องนี้สนุกมากครับ นอกจากให้แรงบันดาลใจในการสู้ชีวิตแล้ว ยังได้สาระดีๆเกี่ยวกับมิตรภาพของเพื่อนอีกด้วย สิบดาวไปเลยครับ
3.The Pursuit of Happyness
หากเป็นหนังประเภทสร้างแรงบันดาลใจแล้ว หนังเรื่องนึงที่คนไทยพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้น The Pursuit of Happyness ที่ได้นักแสดงชั้นนำอย่าง วิล สมิธ จับคู่กับลูกชายของตนเอง จาเดน สมิธ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ คริส การ์ดเนอร์ นักธุรกิจชั้นนำ ที่ครั้งหนึ่งเคยตกอับ ต้องยากจนอย่างหนัก ไร้ที่อยู่ และครอบครัวแตกร้าว
หนังเรื่องนี้ต้องขอบอกว่าคนต่อมน้ำตาตื้นต้องเตรียมทิชชู่ไว้ข้างตัวด้วย เพราะมีช่วงซึ้งๆหลายครั้ง ถึงแม้เวลาส่วนใหญ่จะต้องลุ้นไปกับความพยายามในการหาเงินของพระเอก ใครที่กำลังเผชิญกับเรื่องราวที่เป็นอุปสรรค แนะนำให้หามาดู เพื่อสร้างกำลังใจครับ
4.Unbroken
เป็นเรื่องราวที่สร้างมาจากเรื่องจริงของ หลุยส์ แซมเปอรินี่ หนุ่มอเมริกันเชื้อสายอิตาเลี่ยน ที่ต้องผ่านแบบทดสอบในชีวิตอย่างมากมาย
จากเด็กเกเรที่ดูไร้อนาคต กลับกลายมาเป็นนักวิ่งทีมชาติไปแข่งขันโอลิมปิกที่เบอร์ลิน แต่แล้วโชคชะตากลับพลิกผันให้ต้องมาเป็นทหารอากาศที่ต้องคอยทิ้งระเบิดใส่ข้าศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2
คงไม่มีใครต้องผ่านความยากลำบากในชีวิตบ่อยครั้งเท่า หลุยส์ แซมเปอรินี่ อีกแล้ว เขาผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาได้อย่างไรต้องติดตาม
5.Hanzawa Naoki
หนังซีรีย์จากแดนปลาดิบอีกเรื่องที่ออกฉายในปี 2013 เรื่องราวเกี่ยวกับนายธนาคารหนุ่มชื่อ ฮันซาวะ นาโอกิ ที่ทำงานอยู่ในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เขาต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคหลายครั้งตลอดการทำงาน ทั้งจากใน และนอกองค์กร เพื่อที่จะไต่เต้าขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น
เรื่องราวเข้มข้นมาก ลุ้นกับพระเอกไปตลอด คนอะไรจะเจอปัญหาได้เยอะขนาดนั้น แต่ขึ้นชื่อว่าเป็น ฮันซาวะ นาโอกิ จะต้องลุยกับอุปสรรคซักตั้งหนึ่ง!!!
นอกจากความสนุกของหนังซีรีย์เรื่องนี้ แล้วยังแสดงให้เห็นตัวอย่างวัฒนธรรมการทำงานแบบญี่ปุ่นที่เอาทุ่มเทจริงเอาจัง เหมาะสมกับนำมาประยุกต์กับการทำงานของคนไทยเป็นอย่างมาก
หนังเรื่องนี้เรตติ้งสูงติดอันดับเป็นประวัติการอีกด้วย เหล่าบรรดาพนักงานออฟฟิศห้ามพลาดครับ
6.Misaeng
ข้ามฝากจากฝั่งญี่ปุ่นมาที่ฝั่งเกาหลีบ้าง เดี๋ยวบรรดาคอซีรีย์แดนกิมจิจะน้อยใจ “Misaeng” เรื่องราวที่เกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่ชื่อ จาง คือ แร ที่เข้ามาทำงานออฟฟิศแห่งหนึ่งในตำแหน่งเด็กฝึกหัด หรือพนักงานทดลองงาน
จาง คือ แร ต้องเผชิญกับความกดดัน และการแข่งขัน ต้องพยายามพิสูจน์ความสามารถ เพื่อที่จะได้รับการบรรจุเข้าไปพนักงานประจำของบริษัทแห่งนี้
หนังเรื่องนี้สื่อถึงเรื่องราวที่มักจะเกิดขึ้นในการทำงานได้อย่างสมจริง บ่อยครั้งที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วอดคิดถึงสมัยที่ตัวเองเข้ามาเป็นพนักงานใหม่ๆไม่ได้ ใครที่เคยทำงานออฟฟิศ แล้วได้ดูหนังซีรีย์เรื่องนี้จะเข้าใจ
7.Moneyball
ใครที่เป็นแฟนพระเอกสุดหล่ออย่าง แบรด พิตต์ ต้องติดตามเรื่องนี้ครับ
Moneyball สร้างมาจากเรื่องจริงของ บิลลี่ บีน ผู้จัดการทีมโอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ ทีมเบสบอลในเมเจอร์ลีกสหรัฐ ที่นำรูปแบบการทำทีมที่แตกต่างออกไปจากวิถีปฏิบัติเดิม โดยนำเอาหลักสถิติ และการคำนวณทางคณิตศาสตร์มาใช้ เพื่อหาผู้เล่นหน้าใหม่มาเสริมทีม ด้วยเหตุที่ทีมมีเงินสนับสนุนในการดึงตัวผู้เล่นอย่างจำกัด อีกทั้งเป็นทีมที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดัง ดึงดูดให้เหล่าบรรดาซูเปอร์สตาร์มาร่วมทีมได้
การทำตัวแปลกแยก ไม่ทำตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิมย่อมได้รับการต่อต้าน บิลลี่ บีน แสดงให้เห็นถึงวิธีการ และความมุ่งมั่นที่พาทีมไปสู่ชัยชนะ
ถึงแม้ไม่ใช่แฟนเบสบอลก็สามารถดูได้อย่างสนุก ใครที่อยากดูหนังเกี่ยวกับพวกม้ามืด หรือพลิกจากวิกฤติเป็นโอกาส แนะนำครับ
8.Whiplash
ปกติแล้วผมจะไม่ค่อยดูหนังที่เกี่ยวกับดนตรีสักเท่าไหร่ แต่บอกตามตรงว่าเรื่องนี้ดูแล้วเหนื่อยจนแทบหยุดหายใจ เพราะลุ้นไปกับพระเอกว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
หนังเรื่องนี้ออกฉายเมื่อปี 2014 เล่าเรื่องถึงเด็กหนุ่มที่อยากเป็นมือกลองอาชีพ ได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนสอนดนตรี และได้เจอครูที่ผลักดันให้เขาทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้ ผลักดันแบบสุดๆกันไปเลยทีเดียว
หากใครอยากได้แรงบันดาลใจ กำลังหาหนังที่เกี่ยวกับการทำสิ่งตัวเองรัก หรือการพัฒนาขีดความสามารถของตัวเอง หนังเรื่องนี้ต้องห้ามพลาดครับ
9. Patton
หนังคลาสสิคเรื่องนี้ออกฉายในปี 1970 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอัตชีวิตของนายพลจอร์จ เอส. แพตตัน ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่แสดงออกถึงความมีระเบียบวินัย ความกล้าหาญ รักชาติ และการทำสิ่งใดก็ตามให้บรรลุเป้าหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
ถึงแม้หนังจะค่อนข้างนานมาแล้ว แต่ใครที่อยากจะพัฒนาระเบียบวินัย พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ หรือการเป็นหัวหน้า แนะนำให้ดู โดยดูจากแบบอย่างของนายพลแพตตัน แล้วลองนำมาประยุกต์ใช้ คุณค่าของหนังไม่ได้เก่าตามกาลเวลาไปเลยแม้แต่นิดเดียวครับ
10.The Social Network
ถึงแม้ตัวผมเองจะเป็นสาวกแอปเปิ้ล และสตีฟ จ็อบส์ รวมถึงอยากจะบรรจุหนังของเขามาไว้ในลิสต์ แต่ต้องยอมรับเลยว่าไม่มีหนังที่เกี่ยวกับ ”ความเป็นมาของบริษัทชั้นนำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลก” ที่ทำออกมาได้ดีเท่า The Social Network
หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องราวของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุค ในยุคแรกเริ่ม การแสดงของนักแสดงนำอย่างเจสซี่ ไอเซนเบิร์ก จาก Now You Can See Me ทำให้หนังดูสนุกไม่น่าเบื่อ และการตัดสลับไปมาของฉาก เรื่องราวแต่ละตอน ทำให้หนังดูตื่นเต้น และรวดเร็ว อีกทั้งเพลงประกอบยังคัดสรรมาได้อย่างลงตัว ทำให้ภาพรวมของหนังสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ
ส่วนแง่คิดที่ได้คงหนีไม่พ้นความเป็นผู้ประกอบการ และการริเริ่มธุรกิจ ความมุ่งมั่นทุ่มเท การต้องเลือกระหว่างงานที่รัก และมิตรภาพของเพื่อน อีกทั้งความขัดแย้งที่ต้องคลี่คลาย
เรื่องราวของเขาจะเป็นอย่างไร ปิดเฟซบุค แล้วออกไปหามาดูด่วน!!!