วิเคราะห์การเมือง

มี “ความคาดหมาย” 1 ในทางการเมืองที่เริ่มขึ้นอย่าง “เหลือเชื่อ” และแทบจะ “เป็นไปไม่ได้” เลยในทางการเมือง แต่แปลกที่เริ่มมีคนเชื่อมากยิ่งขึ้น

นั่นก็คือ ความคาดหมายในเรื่อง “การเลือกตั้ง”

ระยะหลัง เริ่มมีความคาดหมายในลักษณะที่ว่า มีแนวโน้มที่ “คสช.” อาจจะเลื่อนระยะเวลาของการเลือกตั้งให้เร็วขึ้น

ที่ว่าภายในปลายปี 2560 อาจ “เร็ว” กว่านั้น

“ความเชื่อ” นี้เริ่มจากความคาดหมายอย่างแน่นอน เริ่มเผยแพร่เบื้องต้นในแวดวงของ “โซเชี่ยลมีเดีย” แล้วก็ค่อยกระจายกว้างขวางมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ

ยังไม่มีเสียงรับรองจาก “นักการเมือง” ยังไม่มีเสียงรับรองจาก “คสช.”

แต่มีลักษณะอันทำให้ “น่าเชื่อว่า” ข้อคาดหมายนี้จะมีคำตอบภายในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นไปในเชิงปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นไปในเชิงตอบรับ

ทำไม

ความเชื่อ 1 มาจากพื้นฐานแห่ง “ความมั่นใจ” ซึ่งดำรงอยู่ภายใน “คสช.” ว่าทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ตั้งแต่ตัดสินใจทำรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

นั่นก็คือ ลิดรอน “เครือข่าย” ของ “พรรคเพื่อไทย” ได้โดยพื้นฐาน

ตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ ทุกกระบวนการที่เกิดขึ้นไม่ว่าในเรื่องการถอดถอน ไม่ว่าในเรื่องของคดีความ ส่งผลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หมดบทบาทอย่างสิ้นเชิง

ชะตากรรมจะดำเนินไปแบบเดียวกับ “พี่ชาย”

ไม่เพียงแต่เท่านั้นการไล่ลูกระนาดต่อเนื่องไปยัง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ต่อเนื่องไปยัง นายประชา ประสพดี ต่อเนื่องไปยัง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ตลอดจนบรรดาอดีตส.ส.ที่เคยมีบทบาทเป็นอย่างสูงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและในการเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

หมายถึง “อนาคต” ของพรรคเพื่อไทยรุบหรู่อย่างยิ่ง

เมื่อบทบาทและความหมายของพรรคเพื่อไทยที่หวังจะใช้ชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจุดขายหมดสิ้นลงตามลำดับ

การจัดวาง “กติกา” ทางการเมืองก็มี “ความพร้อม”

ความสามารถในการ “ร่างรัฐธรรมนูญ” และเปิดยุทธการการเคลื่อนไหวกระทั่งผ่าน “ประชามติ” จึงเป็นความสำเร็จอันงดงาม ยิ่งยวด

จึงเหลือแค่การทำ “กฎหมายลูก” เพื่อกระชับอำนาจมากยิ่งขึ้น

จากนั้น จึงแทบไม่มีอะไรน่าหวั่นไหวหากจะให้ทุกพรรค ทุกนักการเมืองเข้ามาอยู่ในกรอบที่คสช.และแม่น้ำ 5 สายร่วมกันกำหนดและจัดวางเอาไว้

วันเวลาแห่ง “การเลือกตั้ง” ที่รวดเร็วขึ้นก็ย่อมจะเป็นประโยชน์

ระยะเวลา 3 เดือนจากเดือนตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม จึงเป็นไตรมาสอันทรงความหมายยิ่งทางการเมือง

หากคสช.และแม่น้ำ 5 สายร่วมมือกันอย่างขันแข็ง ผลักดันทั้งรัฐธรรมนูญ ทั้งกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญได้ตามเป้าหมายนั่นหมายถึงโอกาส

การร่นเวลาจึงเท่ากับเป็นการช่วงชิงโอกาสในทางการเมือง