เรื่องลี้ลับในวัง!! ของบุรุษผู้หายเข้าไปในพระบรมสาทิสลักษณ์

เรื่องลี้ลับในวัง!! ของบุรุษผู้หายเข้าไปในพระบรมสาทิสลักษณ์

ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อการก่อสร้างพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทแล้วเสร็จ พระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศ์ ก็เสด็จฯย้ายเข้ามาประทับภายในพระที่นั่งองค์นี้ พระที่นั่งองค์นี้ถูกออกแบบให้มีช่องตามฝาผนังเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสาทิสลักษณ์ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลต่างๆ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทนี้ยังเป็นชัยภูมิอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอยู่ข้างพระมหามณเทียรอันเป็นสถานที่ประทับและเป็นที่สวรรคตของพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกรัชกาล

สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์

....เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งขณะที่ สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ (องค์ต้นราชสกุลจักรพงษ์) ยังทรงพระเยาว์นั้น พระองค์ได้ประทับเล่นภายในพระที่นั่ง อยู่ๆพระองค์ก็ทรงเห็นบุรุษร่างท้วมสวมเสื้อผ้าอาภรณ์โบราณแปลกตาเดินผ่านมาทางด้านหน้าพระองค์แล้วเดินเลยหายเข้าไปในพระบรมสาทิสลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ด้วยความที่เจ้าฟ้าจักรพงษ์พระชนม์ยังน้อย พระองค์จึงตะโกนเรียกออกไปตามประสาเด็กว่า นั่นใครกัน ออกมาเดี๋ยวนี้..ออกมาสิ!! แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีใครออกมา

เหล่าข้าหลวงพระพี่เลี้ยงในบริเวณนั้นเมื่อเห็นเหตุการณ์จึงซักไซ้ทูลถามสมเด็จเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ว่าพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นอะไร ไม่นานนักความจึงทราบถึงฝ่าละอองพระบาทของ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา (พระอัครมเหสีในขณะนั้น) ท่านจึงรับสั่งถามเจ้าฟ้าจักรพงษ์อีกครั้งหนึ่งว่าบุรุษนั่นมีรูปลักษณะอย่างไรหน้าตาผิวพรรณเป็นอย่างไร

สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์จึงตอบไปตามที่พระเนตรเห็น สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯก็ทรงทราบได้ทันทีว่าบุรุษที่เดินหายเข้าไปในภาพนั้น แท้จริงคือพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมาปรากฏพระองค์ให้เจ้าฟ้าจักรพงษ์ได้ทอดพระเนตรเห็น

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

ดังนั้นสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯจึงทรงรีบเป็นธุระจัดหาดอกไม้ธุปเทียนแพพาสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ ไปถวายและขอขมาลาโทษที่ไปล่วงเกินดวงพระวิญญาณ หลังจากนั้นเจ้านายและผู้คนในวังทั้งหลายจึงได้รู้ว่าดวงพระวิญญานสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ทุกรัชกาลจะยังคอยปกปักรักษาพระบรมหาราชวังและพสกนิกรของพระองค์อยู่เสมอ

หมายเลข1 พระบรมสาทิศลักษณ์รัชกาลต่างๆ บริเวณมุกกระสันพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
หมายเลข2 พระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี
หมายเลข3 สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์