ปู น้ำตาคลอขึ้นศาล หลัง คสช. สั่งยึดทรัพย์ เผยไม่ได้รับความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 21 ตุลาคม ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนาย เดินทางมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อขึ้นสืบพยานฝ่ายจำเลยนัดที่ 5 ในคดีโครงการรับจำนำข้าว ด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตส.ส. และสมาชิกพรรค อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรค น.ส.อนุตมา อมรวิวัฒน์ รักษาการรองเลขาธิการพรรค น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช อดีตส.ส.ลาดกระบัง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตส.ส.ขอนแก่น ร่วมให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย ทั้งนี้ทันทีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์มาถึง กลุ่มมวลชนซึ่งวันนี้ได้แต่งกายด้วยชุดสีดำชูป้ายให้กำลังใจ โดยไม่ได้ส่งเสียงเชียร์
โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าศาลกรณีกระทรวงการคลังส่งคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายในคดีโครงการรับจำนำข้าวกว่า 35,000 ล้านบาทว่า ได้รับหนังสือทางปกครองแล้วเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ส่วนจะทำอย่างไรต่อไปนั้น ขอเรียนว่าในช่วงที่คนไทยกำลังโศกเศร้าจะยังไม่ขอแถลงการณ์ใดๆ จนกว่าจะถึงเวลาอันควร ซึ่งการออกคำสั่งดังกล่าวไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมกับตนเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องนโยบายและยังไม่เคยมีใครถูกกระทำในเวลาอันเร่งรีบมาก่อน
“ดิฉันขอยืนยันจะใช้สิทธิทุกช่องทาง ทางกฎหมายที่มีในการต่อสู้ครั้งนี้ และขอปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ รวมถึงการใช้คำสั่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นธรรม และจะเปิดแถลงการณ์ในเวลาอันควร เพราะเป็นช่วงที่คนไทยทั้งประเทศโศกเศร้า เราคิดว่าเราคงจะไม่พูดอะไรมากในตอนนี้”น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในคำสั่งทางปกครองมีกรอบเวลาให้ร้องคัดค้านต่อศาลปกครอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยืนยันจะทำตามข้อกฎหมาย ในทุกช่องทางที่มี เมื่อถามว่าการใช้มาตรา 44 คุ้มครองเจ้าหน้าที่ในการทำงาน มองว่าไม่เป็นธรรมกับตัวเองหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้าว่า “ยืนยันว่าขบวนการตั้งแต่เริ่มต้นก็ไม่เป็นธรรมอยู่แล้ว ซึ่งดิฉันก็ได้ร้องขอมาแล้ว ก็เรียนว่าใครเป็นอย่างดิฉันคงรู้ว่ามันไม่ได้รับความเป็นธรรมแค่ไหน”
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า อีกทั้งการดำเนินคดีนี้จะทำให้การบริหารนโยบายเพื่อชาวนาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง การคิดถึงเรื่องกำไร ขาดทุน รัฐบาลต่อไปคงจะดูแลประชาชนและชาวนาได้ยากขึ้น และมาตรการต่างๆ คงจะไม่สามารถมีได้อีกต่อจากนี้
ขอบคุณจาก matichon tv